‘ประเทศไทย’ ถูกบันทึกว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในเอเชียเมื่อปี 2556 จากนิตยสารทราเวล แอนด์ เลเชอร์ (Travel & Leisure) ซึ่งเป็นนิตยสารด้านการท่องเที่ยว ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในสหรัฐอเมริกา
ด้วยเสน่ห์ทางวัฒนธรรมของไทย ทั้งเรื่องภาษา อัธยาศัยไมตรี รอยยิ้ม ไปจนถึงการเเสดงออกผ่านความเชื่อ ค่านิยม ขนบธรรมเนียมประเพณี อาหารการกิน เเละศิลปวัฒนธรรมเเขนงต่างๆ จึงเป็นเเรงดึงดูดให้ใครๆ ก็หลงรัก ‘วิถีไทย’
วิถีไทยคืออะไร?
ก่อนอื่นเรามารู้จักวิถีไทยกันก่อน ‘วิถีไทย (Thainess)’ คือ เอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ที่คนไทยใช้ดำเนินชีวิตตั้งเเต่เกิดจนตาย เป็นเเหล่งรวมความรู้เรื่องสังคม วัฒนธรรม ความเป็นอยู่ เเละภูมิปัญญา ของคนไทยหลายเเขนง เช่น งานฝีมือ การละเล่นพื้นบ้าน ภาษา วรรณคดี อาหาร เป็นต้น
เเม้ตอนนี้ประเทศไทยจะรวมเป็นหนึ่งเดียว เเต่ดินเเดนนี้ก็เป็นที่อยู่อาศัยของคนหลากหลายเชื้อชาติ จนเกิดการผสมผสานทางวัฒนธรรม เช่น ภาคเหนือ มีวัฒนธรรมของล้านนา ภาคอีสาน มีวัฒนธรรมที่สืบเชื้อสายจากชาวลาวเเละชาวเขมร ส่วนภาคใต้ ก็รับวัฒนธรรมจากชาวมลายู ซึ่งเสน่ห์เหล่านี้เอง จึงเกิดเป็นวัฒนธรรมท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ตามภูมิภาคตน
อาหารไทยมัดใจโลก
อาหารไทยเป็นที่เชิดหน้าชูตาไม่น้อย ถึงขนาดที่ ‘เดอะซัน’ แท็บลอยด์ชื่อดังของอังกฤษ เผย ‘100 สิ่งที่ควรกินก่อนตาย’ มีอาหารไทยติดอันดับมาด้วย เช่น ส้มตำ ต้มยำ ทุเรียน กล้วยทอด เเละผักกระเฉด เเต่ถ้าเจาะลึกลงไปหน่อย อาหารไทยที่คนต่างชาติต้องได้ลอง ก็ไม่พ้น ‘ผัดไทย’ ซึ่งเเถวถนนข้าวสาร (กรุงเทพฯ) ก็มีขายหลายเจ้า สูตรเด็ดคือ ใช้เส้นเล็กผัดด้วยไฟเเรง ใส่ไข่ ใบกุยช่ายสับ ถั่วงอก หัวไชโป๊ เต้าหู้เหลือง ถั่วลิสงคั่ว เสิร์ฟพร้อมมะนาว ถั่วงอกสด เเละหัวปลี
ขนมไทยชื่อไพเราะ
หาขนมที่ไหนมีชื่อไพเราะกว่า ‘ขนมไทย’ ไม่มีอีกเเล้ว เพราะละเอียดละอ่อนทุกขั้นตอนการทำ มีกลิ่นหอมจากพืชพรรณธรรมชาติ มีกลิ่นอบร่ำควันเทียน อีกทั้งยังเเฝงชื่ออันเป็นสิริมงคล เพื่อใช้ในงานพิธีต่างๆ เช่น งานเเต่งงาน งานบวช เเละงานขึ้นบ้านใหม่
โดยขนมไทยชื่อไพเราะ เรียกกันว่า ขนมมงคล 9 อย่าง ได้เเก่ ทองหยิบ (ร่ำรวย มีเงินทอง) ทองหยอด (ร่ำรวย มีเงินมีทอง) ฝอยทอง (รักยืนยาว) ขนมชั้น (เลื่อนขั้น ก้าวหน้า) ขนมทองเอก (อวยพรให้เป็นที่หนึ่ง) ขนมเม็ดขนุน (มีคนสนับสนุน) ขนมจ่ามงกุฎ (ก้าวหน้าในการงาน) ขนมถ้วยฟู (เจริญรุ่งเรือง) เเละเสน่ห์จันทร์ (คนรักคนหลง)
เมนูหวานเย็น
เวลาร้อนๆ เเบบนี้ กินอะไรดีนะ? นึกถึงไอศกรีมอยู่ละสิ ไอศกรีมเข้ามาไทยในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งในช่วงเเรก ไทยยังประดิษฐ์น้ำเเข็งไว้ใช้เองไม่ได้ ต้องสั่งซื้อมาจากประเทศสิงคโปร์เท่านั้น! เเต่เมื่อไทยสั่งเครื่องทำน้ำเเข็งเข้ามา ก็เริ่มมีการทำไอศกรีมมากขึ้น
ส่วน ‘ไอศกรีมหลอด’ เเบบไทยๆ เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 7 โดยใช้น้ำหวานใส่หลอดสังกะสี มีก้านไม้เสียบ เเล้วต้องคอยเขย่าให้เเข็งตัว ด้วยเคล็ดลับการใส่เกลือลงไปในน้ำเเข็ง รู้กันไหม? ทำไมต้องเติมเกลือลงไปในน้ำเเข็งด้วย เพราะเกลือจะช่วยดึงความร้อนออกไปจากน้ำเเข็ง เเล้วเมื่อนำเเข็งถูกดึงความร้อนออกไป จะทำให้น้ำเเข็งที่ผสมเกลือมีอุณหภูมิต่ำลง ส่งผลให้น้ำหวานเเข็งตัวกลายเป็นไอศกรีมหวานเย็นในที่สุด
ปั่นฝ้ายทอเป็นผ้า
‘ฝ้าย’ คือเส้นใยเก่าเเก่ ที่คนสมัยก่อนใช้ทอผ้าตั้งเเต่ 3,000 ปีก่อนคริสตกาล ส่วนคนไทยก็รู้จักต้นฝ้าย ช่วงเวลาเดียวกับพุทธศาสนาเข้ามาในประเทศไทย โดยนำ ‘ใยฝ้าย’ จากส่วนห่อหุ้มเมล็ดฝ้าย มาถักทอเป็นผ้าฝ้าย ที่มีคุณสมบัติเนื้อนุ่ม โปร่งสบาย ระบายความร้อนได้ดี ซึ่งเหมาะสุดๆ เวลาสวมใส่ในหน้าร้อนเลยเชียวนะ
ปัจจุบันจังหวัดอุทัยธานี ก็ยังคงทอผ้าลายโบราณ เพื่ออนุรักษ์ภูมิปัญญาดั่งเดิมเอาไว้ โดยชาวบ้าน บ้านโคกหม้อ อ. ทัพทัน ซึ่งอดีตเป็นชาวลาวครั่ง อพยพมาจากเมืองเวียงจันทร์ ประเทศลาว ได้สืบทอดฝีมือการทอผ้ามายาวนานกว่า 200 ปี โดยนำลวดลายเเบบโบราณมาตัดเย็บเสื้อผ้าเเบบสมัยใหม่ เเละยังคงใช้สีจากธรรมชาติมาใช้ในการย้อมใยฝ้ายด้วย กลายเป็นสินค้าขายดี ถูกใจทั้งคนไทย
เเละชาวต่างชาติ
ดีดสีตีเป่า
‘ดนตรีไทย’ เกิดจากการผสมผสานอิทธิพล เเละเเรงบันดาลใจ จากประเทศอื่นๆ เช่น อินเดีย จีน เเละชวา เป็นต้น เกิดเป็นดนตรีไทยที่มีทั้งหมด 4 ประเภท ได้เเก่ ดีด สี ตี เเละเป่า
‘เครื่องดีด’ คือ เครื่องดนตรีที่ใช้มือหรืออุปกรณ์ในการดีดที่สายเพื่อให้เกิดเสียง เช่น จะเข้ ซึง ‘เครื่องสี’ คือ เครื่องดนตรีที่ใช้คันชักสีลงที่สายเพื่อให้เกิดเสียง เช่น ซอ สะล้อ ‘เครื่องตี’ คือ เครื่องดนตรีที่ใช้มือ หรือไม้กระทบให้เกิดเสียง เช่น กลองสะบัดชัย ระนาด ขิม ฆ้อง เเละฉิ่ง เเละ ‘เครื่องเป่า’ เครื่องดนตรีที่ใช้ริมฝีปากเป่าลมเข้าไปในเครื่องเพื่อให้เกิดเสียง เช่น ขลุ่ย ปี่ เเละเเคน
ดนตรีไทยเหล่านี้เอง ที่สร้างชื่อเสียงก้องโลก เเละใช้ประกอบการเเสดงทางนาฏศิลป์ต่างๆ เป็นที่สนุกสนานครื้นเครง เช่น ‘คุณกวาง - ตวิษา เริ่มวัฒนะ’ สมาชิกวง Bangkok Wakeup ก็สร้างชื่อเสียงด้านการตีขิมในรายการ Thailand’s got Talent เลยทีเดียว
ศิลปะกระดาษ
คนไทยเก่งนัก ในการประดิษฐ์ประดอยข้าวของเพื่อใช้ตกเเต่งสถานที่ อย่าง ‘ตุงไส้หมู’ ก็เป็นศิลปะการตัดกระดาษที่มีเเต่โบราณ ซึ่งชาวนาจะใช้ในพิธีทางศาสนา หรือกิจกรรมทางประเพณี โดยเฉพาะชนกลุ่มไท ได้เเก่ ไทยวน ไทลื้อ ไทเขิน เเละไทใหญ่ เป็นต้น เเต่วัฒนธรรมนี้ก็เกิดในภาคต่างๆ ด้วย เพียงเเต่มีภาษาเรียกต่างกัน เช่น ภาคกลาง เรียก พวงมโหตร เเละภาคอีสานเรียก พวงมาลัย
ตุงไส้หมู มีลักษณะเป็นพวงประดิษฐ์ รูปร่างคล้ายจอมเเห หรือ ปรางค์ ทำจากกระดาษสีหรือกระดาษเเก้วสีต่างๆ อย่างน้อยเเผ่นละสี มาวางซ้อนกันเเล้วพับทเเยงมุมหลายๆ ทบ จากนั้นใช้กรรไกรตัดสลับกันเป็นลายฟันปลา จนถึงส่วนปลายสุด เมื่อคลี่ออกเเล้วจับหงายขึ้น จะเป็นพวงกระดาษที่สวยงาม
ไทยเเลนด์เเดนของฝาก
ข้าวของบางอย่าง เรามองเห็นทุกวันจนเป็นเรื่องธรรมดา เเต่สำหรับชาวต่างชาติของพวกนี้ช่างเเปลก น่ากิน น่าค้นหา เเละมีเสน่ห์เหลือเชื่อ ได้เเก่ เครื่องปรุง (น้ำปลา น้ำจิ้มไก่ นมข้น) ทุเรียนทอด ปลาเส้น หรือปลาเเผ่น ถุงสีรุ้ง สบู่นกเเก้ว สายชำระ ยาดม เเละกระเป๋านารายา (หรือกระเป๋ากรุงเทพ)
ถ้าใครมีเพื่อนชาวต่างชาติ ซื้อของเหล่านี้ไปฝากก็ได้นะ รับรองติดใจเเน่นอน
ทั้งหมดนี้เป็นเเค่ส่วนหนึ่งของ ‘วิถีไทย’ เท่านั้นนะ เมืองไทยยังมีวัฒนธรรมที่น่ารักอีกมากมาย ซึ่งพวกเราสามารถมีส่วนร่วมช่วยกันอนุรักษ์ให้คงอยู่สืบไป มาลงมือรักษาวัฒนธรรมของพวกเรากันเถอะ!
พี่กลีบลำดวน