แนวโน้มความปกติใหม่ของการศึกษาและการเรียนรู้
เทคโนโลยีการศึกษามีความเปลี่ยนแปลงก้าวหน้าอยู่ตลอดเวลา แต่การเรียนออนไลน์ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันอันเนื่องจากภาวะโรคระบาดเป็นสาเหตุที่เร่งให้มีการนำเทคโนโลยีที่มีอยู่เดิม ผสมผสานกับเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้กับระบบการศึกษามากขึ้น
จนถึงวันนี้ เราเริ่มคุ้นเคยกับการเรียนการสอนออนไลน์ และพบเห็นปัญหาและอุปสรรคของการเรียนการสอนลักษณะนี้ รวมทั้งเริ่มตระหนักถึงผลกระทบทั้งด้านบวกและลบของการใช้เทคโนโลยีทางการศึกษาจากข้อมูลเชิงประจักษ์ ซึ่งถือเป็นองค์ความรู้ใหม่ที่ได้มาจากการลงมือปฏิบัติจริง ...จะว่าไปแล้วนี่อาจเป็นตลกร้ายหรือแง่มุมที่ดูเหมือนคนโลกสวยจากผลพวงของมหันตภัยไวรัส
อันที่จริง ต่อให้ไม่เกิดการระบาดของโควิด-19 โลกก็มีการพัฒนาเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เดิมทีนั้นแวดวงการศึกษามักเป็นฝ่ายตั้งรับ หรือเป็นเพียงผู้เฝ้าดู และปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงนี้อย่างเชื่องช้า ทว่าปัจจุบัน จะเห็นได้ว่าการศึกษาในระบบและการเรียนรู้ตามอัธยาศัยหรือการเรียนรู้ตลอดชีวิตเกิดความตื่นตัวและมีการปรับตัวรวดเร็วมากขึ้นกว่าเดิม โควิด-19 อาจเปรียบได้กับสารเร่งปฏิกิริยาที่ทำให้รูปแบบของการเรียนรู้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง และเทคโนโลยีได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของห้องเรียนมากกว่ายุคไหนๆ ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงการเรียนรู้นอกห้องเรียน ซึ่งเทคโนโลยีถูกนำมาใช้และได้รับความสนใจจากผู้เรียนจนเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง
แนวโน้มการศึกษาและการเรียนรู้ ซึ่งกำลังเปลี่ยนแปลงทั้งในด้านเทคโนโลยี หลักสูตร และเนื้อหา สะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพของระบบการศึกษาและการเรียนรู้ของสังคม จนในที่สุดความเปลี่ยนแปลงนั้นก็จะกลายเป็นความปกติใหม่ (new normal) แต่สถานการณ์ที่ผ่านมาสอนให้เราทุกคนต่างตระหนักดีว่า ความปกติใหม่นั้นก็เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนเช่นกัน ระบบการศึกษาที่ดีจึงควรจะต้องทำความเข้าใจให้เท่าทันและปรับตัวให้คุ้นเคยกับการเปลี่ยนแปลง
ดังนั้นจึงเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น หากจินตนาการไปข้างหน้าถึงก้าวต่อไปของการศึกษาและการเรียนรู้ว่าควรจะมีรูปแบบอย่างไร เพื่อที่จะส่งเสริมให้เด็กๆ หรือผู้เรียนได้รับการพัฒนาให้เป็นคนที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับโลกยุคต่อไปมากที่สุด