![PMReadForward-01.jpg](../../stocks/extra/008b8e.jpg)
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมกิจกรรมโครงการ “อ่านแล้ว อ่านอีก” ซึ่งจัดขึ้นโดยสถาบันอุทยานการเรียนรู้ (TK Park) ร่วมกับมูลนิธิกระจกเงา ยินดีโครงการสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ในการมุ่งพัฒนาทุนมนุษย์ ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยได้ร่วมมอบหนังสือนิทานเพื่อส่งต่อโอกาส ความรู้ และแรงบันดาลใจ สู่ห้องสมุด โรงเรียน และชุมชน ซึ่งปัจจุบันมีหนังสือที่ได้รับบริจาคร่วมโครงการกว่า 548,764 เล่ม คัดสรรหนังสือสภาพดีและจัดส่งไปแล้ว จำนวน 64,077 เล่ม มีโรงเรียนและห้องสมุดที่ได้รับหนังสือแล้ว กว่า 200 แห่ง ย้ำรัฐบาลเล็งเห็นความสำคัญของหนังสือ ได้บรรจุอุตสาหกรรมหนังสือให้เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ ที่รัฐบาลกำลังเร่งผลักดัน พร้อมชวนคนไทยร่วมบริจาคหนังสือในโครงการดังกล่าว เพื่อส่งต่อความรู้และโอกาสไปยังโรงเรียนและห้องสมุดที่ต้องการหนังสือที่เสริมสร้างและพัฒนาการเรียนรู้ โดยตั้งเป้าหมาย 1 ล้านเล่ม บริจาคได้ตั้งแต่วันนี้ – 18 เมษายน 2568
![PMReadForward-09.jpg](../../stocks/extra/008b96.jpg)
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในโอกาสเข้าร่วมมอบหนังสือให้แก่ โครงการอ่านแล้ว อ่านอีก เป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของรัฐบาล คือ การพัฒนา “ทุนมนุษย์” เพราะเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุดในการพัฒนาประเทศ โดยส่งเสริมให้คนไทยทุกช่วงวัยมีโอกาสเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ ลดความเหลื่อมล้ำ ทางการศึกษา ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Life-Long Learning) และสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ ซึ่ง โครงการอ่านแล้ว อ่านอีก โดยความร่วมมือระหว่าง TK Park และมูลนิธิกระจกเงา เป็นโครงการที่ตอบโจทย์ทางสังคมและสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลอย่างยิ่ง
![PMReadForward-05.jpg](../../stocks/extra/008b92.jpg)
ในโอกาสนี้ นางสาวแพทองธาร ได้นำหนังสือนิทานสำหรับเด็กมาร่วมแบ่งปัน เพื่อส่งต่อโอกาสให้กับเด็ก ๆ ในพื้นที่ที่มีความต้องการ เพราะหนังสือนิทานเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการปลูกฝังนิสัยรักการอ่านตั้งแต่วัยเยาว์ บรรยากาศในการเล่านิทานให้ลูกฟังก่อให้เกิดสายใยความผูกพันที่แนบแน่นระหว่างพ่อแม่และลูก ปลุกความคิดให้เด็กเกิดจินตนาการ บ่มเพาะความคิดสร้างสรรค์และนิสัยรักการเรียนรู้ ซึ่งเป็นรากฐานของการพัฒนาทุนมนุษย์ ให้เติบโตเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพในอนาคต
นอกจากนี้ นายกฯ ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้รัฐบาลยังเห็นความสำคัญของหนังสือ และได้บรรจุอุตสาหกรรมหนังสือให้เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ ที่รัฐบาลกำลังเร่งผลักดัน ซึ่งนอกจากจะเป็นโอกาสในการสร้างรายได้ สร้างเศรษฐกิจใหม่ ส่งออกวัฒนธรรมไทยสู่สายตาชาวโลกแล้ว ยังเป็นโอกาสในการรณรงค์ส่งเสริมการอ่านให้เกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง และช่วยพัฒนาสังคมฐานความรู้ให้เกิดขึ้นในประเทศไทยอีกด้วย
![PMReadForward-06.jpg](../../stocks/extra/008b93.jpg)
“หนังสือ คือ หนึ่งในซอฟต์พาวเวอร์ที่ทรงพลัง ซึ่งจะช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ทั้งในระดับบุคคลและระดับประเทศ ทั้งในฐานะ “เครื่องมือ” ในการพัฒนาศักยภาพและเปลี่ยนชีวิตคน และในฐานะ “สื่อ” ที่ช่วยเผยแพร่วัฒนธรรม ความคิด อัตลักษณ์ และคุณค่าแห่งความไทยไปสู่สายตาชาวโลก การพัฒนาวงการหนังสือและสร้างระบบนิเวศการอ่านให้เข้มแข็ง จึงเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ของการพัฒนาประเทศซึ่งรัฐบาลพร้อมสนับสนุนในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนนักเขียน การส่งเสริมการอ่าน ส่งเสริมอุตสาหกรรม เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และสร้างโอกาสให้หนังสือไทยได้โดดเด่นในเวทีระดับโลก
สุดท้ายนี้ อยากขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนมาร่วมแบ่งปันหนังสือกับโครงการ “อ่านแล้ว อ่านอีก”เพราะการให้หนังสือเพียงหนึ่งเล่ม นอกจากจะเป็นการส่งต่อความรู้ ส่งต่อแรงบันดาลใจแล้ว อาจเป็นการส่งต่อโอกาสที่เป็นจุดเริ่มต้นสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ให้กับชีวิตใครอีกหลาย ๆ คนได้ ซึ่งถือเป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่” นายกฯ กล่าว
![PMReadForward-02.jpg](../../stocks/extra/008b8f.jpg)
ด้าน นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการ สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) หรือ OKMD กล่าวว่า โครงการ ‘อ่านแล้ว อ่านอีก’ เป็นหนึ่งในโครงการสำคัญที่จัดขึ้นในโอกาสฉลองครบรอบ 20 ปีของ สถาบันอุทยานการเรียนรู้ TK Park ร่วมกับมูลนิธิกระจกเงา เชิญชวนคนไทย
ทุกคนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้โดยร่วมกันบริจาคหนังสือ ตั้งเป้ารับบริจาค 1 ล้านเล่ม เพื่อส่งต่อไปยังห้องสมุดโรงเรียน ห้องสมุดชุมชน ศูนย์เรียนรู้ และศูนย์เด็กเล็ก ร่วมสร้าง “ห้องสมุดมีชีวิต” กว่า 2,000 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งทางโครงการจะเปิดโอกาสให้ห้องสมุดและศูนย์การเรียนรู้ที่เข้าร่วมโครงการ สามารถแจ้งประเภทและหัวข้อหนังสือที่ต้องการได้ เพื่อให้หนังสือที่ส่งไปเกิดประโยชน์สูงสุดและตรงตามความต้องการของผู้รับอย่างแท้จริง โดยจะมีทีมงานที่เชี่ยวชาญช่วยคัดเลือกหนังสือที่เหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการก่อนส่งออกไป สำหรับประชาชนที่สนใจสนับสนุนโครงการ นอกจากร่วมบริจาคหนังสือแล้ว ยังสามารถร่วมเป็นอาสาสมัคร ช่วยคัดแยกและจัดส่งหนังสือไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ รวมทั้งสนับสนุนด้านเงินทุนได้ด้วย ปัจจุบันมีหนังสือที่ได้รับบริจาคร่วมโครงการกว่า 548,764 เล่ม คัดสรรหนังสือสภาพดีและจัดส่งไปแล้ว จำนวน 64,077 เล่ม มีโรงเรียนและห้องสมุดที่ได้รับหนังสือแล้ว กว่า 200 แห่ง
![PMReadForward-03.jpg](../../stocks/extra/008b90.jpg)
ด้าน นายจรัญ มาลัยกุล หัวหน้าโครงการอ่านสร้างชาติ มูลนิธิกระจกเงา กล่าวเสริมว่า โครงการ "อ่านแล้ว อ่านอีก" มีเป้าหมายและแนวทางการดำเนินงานที่สอดคล้องกับโครงการ "อ่านสร้างชาติ" ที่มูลนิธิกระจกเงาดำเนินการอยู่แล้ว โดยมุ่งแบ่งปันหนังสือ ส่งเสริมการอ่าน และสร้างโอกาสในการเข้าถึงความรู้ จึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมโครงการนี้ซึ่งถือเป็นความร่วมมือที่ลงตัว เพราะ TK Park มีความเชี่ยวชาญในการสร้างพื้นที่การเรียนรู้อย่าง “ห้องสมุดมีชีวิต” ที่ช่วยให้การอ่านกลายเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจและเข้าถึงง่าย ในขณะที่มูลนิธิกระจกเงาก็มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการทำงานร่วมกับชุมชน และห้องสมุด มีความใกล้ชิดและเข้าใจความต้องการของชุมชน สามารถช่วยกระจายหนังสือไปยังชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพและตรงกับความต้องการ
ร่วมบริจาคหนังสือที่จุดรับบริจาคหลักได้ที่ อุทยานการเรียนรู้ TK Park ชั้น 8 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และมูลนิธิกระจกเงา ตั้งแต่วันนี้จนถึง 18 เมษายน 2568 ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ readforward.tkpark.or.th
![PMReadForward-07.jpg](../../stocks/extra/008b94.jpg)
![PMReadForward-04.jpg](../../stocks/extra/008b91.jpg)
![PMReadForward-08.jpg](../../stocks/extra/008b95.jpg)