วันเด็กเที่ยวรอบโลกที่ TK park

                 หวนมาครบรอบอีกครั้ง กับวันเสาร์ที่สองของเดือนมกราคมหรือวันที่เด็กไทยทั้งประเทศรอคอย ‘วันเด็กแห่งชาติ’ โดยในหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนก็ร่วมมือกันจัดงานวันเด็กกันอย่างคึกคักทั่วประเทศ แสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญต่อเด็ก ซึ่งหมายถึงการวางรากฐานของกำลังสำคัญที่จะเข้ามาทำหน้าที่แทนผู้ใหญ่ในการดูแลประเทศชาติต่อไปในอนาคต ให้สมกับคำขวัญวันเด็กปีนี้ของท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ว่า “รอบคอบ รู้คิด มีจิตสาธารณะ”

                 - รอบคอบ ปัจจุบันมีทางเลือกที่จะรับข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อใหม่ต่างๆ ต้องรู้รอบด้าน ไม่เป็นเหยื่อรู้เท่าไม่ถึงการณ์จนเกิดปัญหาแก่ตนเองและสังคม

                 - รู้คิด เรียนรู้รอบด้านแล้วต้องรู้จักคิดใช้ชีวิตอย่างมีสติไม่ประมาท ผมจึงอยากให้น้องๆ เด็กๆ รู้จักคิดให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองและผู้อื่น

                 - จิตสาธาณะ สังคมต้องพึ่งพิงกันเห็นได้ในยามมีภัยคนไทยเราช่วยกัน การปลูกฝังจิตสำนึกเช่นนี้จำเป็น

                 วันเด็กในปีนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ 8 มกราคม ทางอุทยานการเรียนรู้ TK park เองก็ทุ่มเทเนรมิตงานวันเด็กสุดยิ่งใหญ่เช่นเคย และยังเป็นงานฉลองการกลับมาบ้านหลังเดิมอย่างเป็นทางการของ TK park บนชั้น 8 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยในปีนี้เปิดโอกาสให้เด็กๆ เรียนรู้วัฒนธรรมนานาชาติ ในหัวข้อ “สนุก เล่น เห็นโลกกว้าง ตอน ท่องแดนนานาชาติ” กับกิจกรรมที่พาเหรดความรู้และความสนุกสนานมามอบให้น้องๆ ตลอด 2 วันเต็ม ทั้งวันที่ 8 และ 9 มกราคม

                 โลกที่ว่ากว้างใหญ่กลับดูเล็กลงไปถนัดตา เมื่อเหล่าบรรดาความรู้ว่าด้วยวัฒนธรรมและวิถีชีวิตอันหลากหลายของนานาประเทศทั่วโลก ได้ถูกย่อส่วนลงมาให้น้องๆ ได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิดผ่านกิจกรรมอันหลากหลาย ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้นคงต้องติดตามบรรทัดข้างล่างต่อจากนี้ไป…

แรลลี่ 4 ฐาน สานโลกให้ได้ใกล้ชิด
                 หากน้องๆ คนไหนที่เข้ามาในงานวันเด็กครั้งนี้ ต้องพลาดไม่ได้กับกิจกรรมไฮไลต์ของงานอย่างเกม แรลลี่ 4 ฐาน ซึ่งเป็นการย่อโลกกว้างให้น้องๆ ได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด โดยน้องๆ ทุกคนจะได้รับ ‘แผนที่ท่องโลกกว้าง’ มาคนละใบ เพื่อเป็นการสำรวจ และบันทึกฐานแต่ละฐานที่ไปมาแล้วด้วยการประทับตรา และหากใครไปได้ครบทั้ง 4 ฐานก็ได้รับของรางวัลกลับบ้านกันอีกด้วย

คัพเค้กแห่งจินตนาการของหนู

                 เริ่มต้นกันที่ฐานแรก มีชื่อว่า ดินแดนขนม ดินแดนแห่งความอร่อยที่เปิดโอกาสให้น้องๆ ได้แสดงฝีมือในการแต่งหน้าคัพเค้กด้วยตนเองเป็นรูปธงชาติของประเทศต่างๆ โดยการดูแลและให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิดของพ่อครัวจาก Central Food Hall แม้จะมีตัวอย่างให้ดู แต่จินตนาการของน้องบางคนก็ไปไกลกว่านั้น เพราะหน้าคัพเค้กไม่ได้มีแต่รูปธงชาติเท่านั้น แต่ยังมีรูปตัวการ์ตูนต่างๆ ที่สร้างสรรค์มาจากจินตนาการของน้องๆ เอง ไม่น่าเชื่อว่าบนพื้นที่เล็กๆ บนหน้าขนมเค้กชิ้นหนึ่งจะกลายเป็นพื้นที่ปลดปล่อยจินตนาการอันยิ่งใหญ่ได้

นี่คือของรางวัล

                 หลังปลดปล่อยจินตนาการเสร็จ ก็ต่อด้วยการทดสอบความจำกับฐาน ธงนานาชาติ ที่ให้น้องๆ ทดสอบจดจำสีและลวดลายของธงชาติให้สัมพันธ์กับชื่อประเทศและเมืองหลวงจากนานาประเทศ เพื่อสะสมเพิ่มพูนความรู้รอบตัวให้มากยิ่งขึ้น และหลังจากที่ทดสอบผ่านก็ได้สิทธิ์เพ้นต์หน้าเป็นลายธงชาติของประเทศต่างๆ เป็นของรางวัล เราจึงได้เห็นบนแก้มของน้องๆ ทุกคนที่เข้ามาร่วมงานแต่งแต้มด้วยลายธงนานาชาติสมชื่อฐาน สวยงามเลยทีเดียว

แม่ลูกช่วยกัน

                 เดินไปสู่ฐานต่อไป ณ บริเวณห้องสมุดไอทีกับฐาน 7 มหัศจรรย์ ที่ให้น้องๆ เพลิดเพลินไปกับการท่องเที่ยวยังสถานที่ที่เป็น 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกผ่านปลายนิ้วคลิกจากอินเทอร์เน็ตและนิทรรศการ ก่อนจะตอบคำถามปริศนาทั้ง 3 ข้อเกี่ยวกับสถานที่ อาหารการกิน และการแต่งกายต่างๆ เพื่อพิชิตฐานนี้ให้ได้ ซึ่งความรู้ที่ได้ยังไม่เพียงแต่ช่วยให้ได้ของรางวัลเท่านั้น แต่ยังช่วยประดับประดาสมองของน้องๆ ด้วยความรู้ใหม่ๆ และสามารถต่อยอดไปได้อีกกว้างไกล อีกทั้งยังได้เรียนรู้การใช้อินเทอร์เน็ตอย่างสร้างสรรค์อีกด้วย

ทดสอบความมันกับเกมใหม่

                 ปิดท้ายแรลลี่กันที่ฐานสุดท้ายกับฐาน พลิกฟ้า ล่าดวงดาว ณ บริเวณโซนอินเทอร์เน็ตภายในห้องสมุดมีชีวิต (Reading Park) ที่พาน้องๆ บินออกนอกโลกไปค้นหาแหล่งความรู้ยังดวงดาวต่างๆ ในระบบสุริยจักรวาล ทั้งความเชื่อและอิทธิพลของดวงดาวที่มีต่อชาวโลก รวมไปถึงความรู้รอบตัวเกี่ยวกับดาราศาสตร์ไทย ผ่านนิทรรศการที่ให้ความรู้กันแบบเต็มอิ่ม และยังให้น้องๆ ได้สนุกสุดมันกับเกม Star Seeker พลิกฟ้า ล่าดวงดาว เกมแอ็กชั่นผจญภัยสุดสร้างสรรค์เกมใหม่ล่าสุดที่ TK park เพิ่งเปิดให้ประลองฝีมือกัน

งานนี้ขอโชว์ความสามารถเต็มๆ นะคะ

                 นอกจากนั้นภายในห้องสมุดเด็กก็มีกิจกรรมเอาใจน้องๆ ตัวน้อย อย่างการประกวดวาดภาพระบายสีในหัวข้อ “สนุก เล่น เห็นโลกกว้าง ตอนท่องแดนนานาชาติ” โดยแบ่งเป็น 2 ช่วงวัย ทั้ง 3-6 ปี และ 7-9 ปี มือน้อยๆ บวกกับจินตนาการอันยิ่งใหญ่ของน้องๆ ก็ได้สร้างสรรค์เป็นผลงานที่ทำให้บรรดาคุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองต่างยิ้มภูมิใจไปตามๆ กัน และยังคลอเคล้าไปด้วยเสียงเล่านิทานสนุกๆ จากเยาวชนคนเก่งผู้ชนะการประกวดหนูน้อยนักเล่านิทาน และเสริมด้วยรุ่นใหญ่อย่าง กลุ่มนิทานกระดานหก กันอีกแรง

                 เสร็จสิ้นจากภารกิจแรลลี่ ก็พักเหนื่อยกันด้วยการชมการแสดงบนเวทีลานสานฝันต่อได้เลย

ลานสานฝัน ผันจินตนาการให้กลายเป็นจริง
                 ลานสานฝันที่เคยร้างราไปนานก็ได้กลับมาสานฝันกันอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง กับกิจกรรมบนเวทีที่พาเหรดมาให้น้องๆ ได้ชมและร่วมสนุกตลอดทั้งวัน

                 เริ่มต้นเปิดงานกันที่ การแสดงบัลเลต์ โดยน้องๆ ตัวน้อยจาก บางกอกซิตี้บัลเล่ต์ ในการแสดงชุด Dance in the Garden และ It's a Small World ที่มีความงดงาม น่ารัก สดใส สะกดสายตาผู้ชมรอบๆ ลานสานฝันให้นิ่งงัน เพราะน้องๆ ที่มาแสดงล้วนแล้วแต่ผ่านการฝึกฝนมาตั้งแต่อายุยังน้อยๆ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมตัวอย่างที่ทำให้ผู้ปกครองสนใจปลูกฝังให้ลูกรู้จักการกล้าแสดงออกมากขึ้น

สามัคคีคือครอบครัว

                 จบจากการแสดงอันงดงามก็ต่อด้วย การแข่งขันประลองต่อจิ๊กซอว์สามมิติ 3D Pop-Out World โดย บริษัท โกลบอล แอ็ดวานซ์ เทรดดิ้ง จำกัด ให้เป็นรูปสถานที่สำคัญของโลกและประเทศไทยอย่างพระปรางค์วัดอรุณฯ โดยให้น้อง ๆ และคุณพ่อคุณแม่ร่วมแรงกันต่อให้เสร็จภายในเวลาที่กำหนด เราจึงได้เห็นภาพอันน่าชื่นใจในความสามัคคีร่วมแรงร่วมใจกันของแต่ละครอบครัว

                 สานต่ออารมณ์ครอบครัวด้วยละครนิทานสนุกๆ จากพี่ๆ กลุ่มนิทานกระดานหก เรื่อง ยุกยิกยุกยัก ว่าด้วยเรื่องราวเกี่ยวกับลูกหมูสามตัวที่พยายามทำทุกทางเพื่อไม่ให้ยักษ์ใจร้ายจับไปกิน เรียกเสียงฮาและรอยยิ้มจากน้องๆ และคุณพ่อคุณแม่กันได้ยกใหญ่

มวยจิ๋วแต่ใจไม่จิ๋ว

ลีลาแม่ไม้มวยไทยรุ่นเยาว์

                 การแสดงความสามารถชุดต่อไปเรียกได้ว่าทำให้ผู้ชมอ้าปากค้างกันเลยทีเดียว กับการแสดง โชว์ศิลปะแม่ไม้มวยไทยโดยน้องๆ เยาวชนจากสถาบันอนุรักษ์ศิลปะมวยไทย กรมพลศึกษา ซึ่งการแสดงจะไม่ตื่นตาตื่นใจเลย หากผู้ที่มาโชว์นั้นไม่ได้เป็นคู่มวยเด็กไทยที่เล็กที่สุดในโลก อย่าง น้องมดดำและน้องมดแดง ที่อายุเพียงสี่ขวบครึ่งและห้าขวบ สองพี่น้องที่เติบโตมากับมวยไทยตั้งแต่แบเบาะ มาโชว์การต่อยมวยไทยกันจริงๆ ถึง 3 ยก ทั้ง หมัด เท้า เข่า ศอก ใส่กันแบบไม่ยั้ง ผลก็เสมอกันไปชนิดผู้ชมลุ้นกันแทบลืมหายใจ และต่อด้วยการร่ายรำมวยไทยโบราณ โดยคู่มวยไทยรุ่นเยาว์พี่น้องอีกคู่อย่าง ด.ญ.สุมนา เชาว์วิจักร อายุ 11 ปี และ ด.ช.คุณาสิน เชาววิจักร์ อายุ 13 ปี ที่เป็นการผสมผสานความสวยงามและหนักแน่นของท่วงท่า ทั้งท่าที่เป็นที่รู้จักกันดีอย่าง มอญยันหลัก จระเข้ฟาดหาง ฤาษีบดยา และท่าที่หาชมได้ยากอีกมากมาย สมกับที่ศิลปะแม่ไม้มวยไทยได้ประกาศศักดาก้องโลกมาแล้ว

นี่ก็คาราเต้จิ๋ว

                 หลังจากที่การแจกของรางวัลรอบแรกจากหางบัตรแผนที่ท่องโลกกว้างเสร็จเรียบร้อย ก็เปลี่ยนอารมณ์มาชมการแสดงศิลปะการป้องกันตัวประจำชาติญี่ปุ่นกันบ้าง กับ การสาธิตศิลปะป้องกันตัวคาราเต้ จาก Thai Zendokai Karate สถาบันสอนคาราเต้ชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่นที่มาเปิดสาขาในไทย โดยน้องๆ เยาวชนอายุตั้งแต่ 4-10 ปีหลากเชื้อชาติ อาทิ ไทย ญี่ปุ่น เยอรมัน มาเลเซีย นับสิบชีวิตต่างออกลวดลายการป้องกันตัวได้อย่างเข้มแข็งและน่ารักน่าชังจริง ๆ

แอ็กติ้งของสองพี่น้องนักเล่านิทาน

                 งานวันเด็กในปีนี้ของ TK park ได้เปิดโอกาสให้หนูน้อยนักเล่านิทาน ผู้ชนะเลิศจากโครงการลับสมองประลองปัญญาสรรหาหนูน้อยนักเล่านิทาน มาแสดงความสามารถกันด้วย โดยสองพี่น้องมากความสามารถอย่าง น้องไอเดีย หรือ ด.ญ.พชรมน อินสตุล และ น้องโอปอลล์ หรือ ด.ญ.ปริณดา อินสตุล ทั้งคู่ได้รับรางวัลชนะเลิศการแข่งขันหนูน้อยนักเล่าประเภทครอบครัว ประจำปี 2553 อีกด้วย ทั้งสองมาเล่านิทานเรื่อง เกี๊ยะวิเศษ แบบแทคทีม เรียกเสียงปรบมือจากผู้ชมได้อย่างท่วมท้น ต่อด้วยการเล่านิทานแบบเล่าไปพับไป โดยน้องต้นหลิว หรือ ด.ญ.ธรพชรพรรณ พูลศรี อายุ 11 ปี ผู้ชนะเลิศการแข่งขันหนูน้อยนักเล่ารุ่นอายุ 6-9 ปี ปี 2551 จากโรงเรียนหัวหินวิทยาลัย ที่มาแสดงทักษะด้านการพูดและเล่านิทานได้อย่างยอดเยี่ยม ฉายแววไปสู่การเป็นพิธีกรมากความสามารถในอนาคตอย่างแน่นอน หลังจากนั้นเป็นกิจกรรมจากภาคีพันธมิตรอย่าง ไปรษณีย์ไทย ที่พาคุณบุรุษไปรษณีย์ตัวใหญ่มาชวนน้องๆ เต้นรำกันอย่างสนุกสนาน พร้อมด้วยเกมบิงโกสนุกๆ และให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องไปรษณีย์ไทย รวมไปถึง โรงภาพยนตร์เอสเอฟ เวิลด์ซีเนม่า ก็ขนเกมเปิดแผ่นป้ายมาให้น้องๆ เล่นพร้อมแจกของรางวัลกันอีกด้วย

ความไพเราะเกินตัว

                 จากนั้นต่อด้วยกับ การแสดงเดี่ยวไวโอลิน โดยน้องๆ จาก อัลเบิร์ต ไวโอลิน สตูดิโอ ทั้งน้องแมนต้า อายุ 3 ขวบ และ น้องอิม ด้วยวัยเพียงไม่ถึงสิบขวบ แต่กลับสามารถจำโน้ตและสีไวโอลินได้อย่างไพเราะไม่แพ้มืออาชีพ สะกดทั้งสายตาและหูของผู้ชมให้จดจ่ออยู่กับการแสดงได้อย่างน่าทึ่ง

เด็ดยังไงก็ไม่หลุด

                 ปิดท้ายกับ การแสดงนิทานชุดจุดประกาย ตอน เจ้าหญิงวุ่นวายกับดอกไม้มหัศจรรย์ โดยศูนย์นวัตกรรมศิลปะการแสดงเพื่อพัฒนาเยาวชน (IPAC) ว่าด้วยเรื่องราวของเจ้าหญิงผู้เอาแต่ใจตัวเอง ที่พยายามทุกหนทางเพื่อจะเด็ดดอกไม้ดอกหนึ่งมาเป็นของตนให้ได้ โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่ตามมา ละครนิทานแง่คิดดี ๆ เรื่องนี้บรรดานักแสดงทุกคนต่างแสดงได้อย่างสนุกสนานและสมบทบาทอย่างมาก ทำให้เรียกเสียงหัวเราะและเสียงปรบมือได้ดังกึกก้อง

                 ก่อนจะเสร็จสิ้นกิจกรรมบริเวณลานสานฝัน ก็มาถึงช่วงที่น้อง ๆ ทุกคนรอคอย นั่นก็คือการแจกรางวัลจากหางบัตรแผนที่ท่องโลกกว้างรอบที่สอง ของรางวัลทั้งน้อยใหญ่มากมายโดยผู้ใหญ่ใจดี TK park และจากหน่วยงานภาคีกว่า 20 แห่ง ก็ได้รับการจับแจกกันอย่างเต็มที่ น้องๆ จึงได้ทั้งความรู้ ความสุข และของติดไม้ติดมือกลับบ้านกันทุกคน สมกับเป็นของขวัญวันเด็กในปีนี้ที่เยาวชนของชาติสมควรจะได้รับจากผู้ใหญ่อย่างแท้จริง

เสียงตอบรับ ขับขานเพื่อสานต่อ
                 หากกะปริมาณจำนวนน้องๆ และพ่อแม่ที่เข้ามาร่วมกิจกรรมวันเด็กในปีนี้ ต้องบอกเลยว่าทำให้ TK park ของเราเล็กลงไปถนัดตา แต่บรรยากาศกลับอบอวลไปด้วยความอบอุ่นของครอบครัว เราลองไปฟังเสียงของตัวแทนครอบครัวที่มาร่วมงานกันดีกว่า ว่าพวกเขามีความสุขแค่ไหนในบรรยากาศเช่นนี้

คุณแม่ปรียาภา

                 คุณแม่มือใหม่อย่าง คุณแม่ปรียาภา ภัทรคุณานันท์ บอกกับเราว่าเพิ่งพาน้องสองคนมาเที่ยวงานวันเด็กเป็นปีแรก เพราะน้องยังเล็กอยู่ ก็ได้เลือกงานวันเด็กที่ TK park เป็นที่แรก แม้จะไม่ได้ร่วมกิจกรรมแรลลี่เข้าฐาน แต่น้องก็ชอบละครนิทานเป็นพิเศษ เรียกได้ว่าทั้งเหนื่อย ทั้งสนุก และยังฝากไว้ว่าวันเด็กปีหน้าจะพาน้องมาสนุกที่นี่อีกครั้งแน่นอน

คุณแม่รวพร

                 ทางด้าน คุณแม่รวพร ตันติหิรัญพงศ์ ที่มากับลูกสาววัยกำลังซนก็บอกกับเราว่าส่วนตัวชอบฐาน 7 สิ่งมหัศจรรย์เป็นพิเศษ เพราะว่าเป็นฐานที่ให้น้องได้ใช้ความสามารถในการค้นหาคำตอบ ส่วนน้องเองก็ชอบฐานดินแดนขนม เพราะได้ลงมือแต่งหน้าคัพเค้กด้วยฝีมือตนเอง คุณแม่ยังบอกอีกว่าปีหน้าอยากแนะนำให้พ่อแม่ท่านอื่นๆ ลองพาลูกมาเที่ยวงานวันเด็กที่นี่ดูบ้าง แล้วจะได้อะไรกลับไปเยอะมาก ซึ่งบางครั้งพ่อแม่ไม่รู้ว่าจะพาไปที่ไหนดี ถ้ามาที่นี่พ่อแม่ก็สามารถอ่านหนังสือรอได้สบาย เพราะมีกิจกรรมสำหรับเด็กรองรับอยู่แล้ว

                 เสียงตอบรับดีขนาดนี้ คุณพ่อคุณแม่ท่านไหนยังไม่มีสถานที่ให้น้องๆ เที่ยววันเด็กอยู่ในใจ รีบวางแผนกันข้ามปีได้เลย เพราะทีมงาน TK park ทุกคนพร้อมทุ่มเทจัดงานวันเด็กดีๆ เช่นนี้อีกในปีหน้าอย่างแน่นอน

                 หากคาดหวังว่าเด็กในวันนี้คือผู้ใหญ่ที่ดีในวันหน้า งานวันเด็กก็ไม่ต่างอะไรกับปุ๋ยชั้นดีที่คอยเติมให้เด็กๆ ทุกๆ ปี เพื่อให้พวกเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีได้ดังหวัง

วิชญ์พล พลพิทักษ์ชัย

ขอขอบคุณผู้ใหญ่ใจดี