10 ข้อสู่การเป็น ‘มนุษย์ครีเอทีฟ’ ที่ประสบความสำเร็จ
หนึ่งในทักษะสำหรับการเป็นครีเอทีฟหรือการทำงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์คือการรู้จักตัวเอง ขณะเดียวกันการเรียนรู้จากต้นแบบที่ประสบความสำเร็จก็มีส่วนสำคัญในการพัฒนาความเป็นครีเอทีฟที่ดีและประสบความสำเร็จได้เช่นกัน
1.จัดตารางงานที่เหมาะสมกับตัวเอง
นักปราชญ์และนักคิดนักเขียนสมัยก่อนมักจะเลือกเวลารุ่งเช้าเป็นช่วงที่เหมาะกับการคิดงานที่สุด แต่ด้วยสภาพสังคมปัจจุบัน การเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการทำงานของสมองและจิตใจของตัวเองถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด หากคุณสังเกตจนพบช่วงเวลาที่เหมาะสมกับตัวเอง ไม่ว่าจะรุ่งเช้า ระหว่างวัน หรือกลางดึก จงล็อกเวลานั้นไว้และเลือกทำงานในช่วงเวลานั้นเป็นประจำจนเคยชิน
2.จดจำงานที่แย่ที่สุด
การจดจำงานที่แย่ที่สุดสำคัญพอๆ กับการจดจำงานที่ดีที่สุด งานที่แย่ที่สุดชของมนุษย์ครีเอทีฟมักเป็นงานที่ทำได้ไม่เต็มที่ ซึ่งการทำงานไม่เต็มที่ส่วนใหญ่เกิดจากการเป็นคนเบื่อง่าย ชอบหาอะไรทำ ชอบผ่อนคลาย จนหลายครั้งกลายเป็นการผัดวันประกันพรุ่ง มนุษย์ครีเอทีฟที่ดีจึงควรจดจำผลที่ตามมาจากการงานที่แย่ เพื่อเป็นอีกหนึ่งแรงกระตุ้นตัวเองนอกเหนือจากเดดไลน์
3.โหยหาประสบการณ์ใหม่ๆ
ไอน์สไตน์ไม่ได้เก่งแค่วิทยาศาสตร์ เขายังเป็นนักไวโอลิน และพาไวโอลินคู่ใจเดินทางเที่ยวรอบโลก เช่นเดียวกับครีเอทีฟหลายคนที่มักทำกิกจรรมอย่างอื่นไปด้วย มนุษย์ครีเอทีฟที่ดีต้องหาโอกาสสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่อยู่เสมอ กระตุ้นความคิดให้กระตือรือร้นตลอดเวลา นอกจากนี้ ก็ควรฝึกรับรู้ประสบการณ์ในทางที่ต่างออกไปด้วย เช่น มองให้ได้ยิน กินให้ได้ความรู้สึก เป็นต้น
4.รู้ว่าตัวเองไม่ชอบอะไร
สิ่งที่มนุษย์ครีเอทีฟทั่วโลกไม่ชอบมากที่สุดก็คือกฎระเบียบต่างๆ แน่นอนว่าหลายครั้งคุณไม่สามารถแหกกฎทุกอย่างในชีวิตได้ทั้งหมด แต่หากพบว่ากฎบางอย่างที่ทำให้ความคิดสร้างสรรค์ของคุณไม่ทำงาน คุณก็ควรหาทางบิดพลิ้วเพื่อหนีออกมา และควรทำอย่างระมัดระวัง
5.กล้าเสี่ยง กล้าล้มเหลว
เช่นเดียวกับอาชีพอื่นๆ ความล้มเหลวเป็นปัจจัยสำคัญในความสำเร็จของมนุษย์ครีเอทีฟ หลายคนใจสลายและเลิกพยายามหลังจากล้มเหลว 2-3 ครั้งแรก แต่คนที่จะประสบความสำเร็จต้องพยายามให้มากครั้งที่สุดเท่าที่จะทำได้ และที่สำคัญ จงเป็นเพื่อนกับความล้มเหลว เรียนรู้ที่จะก้าวข้ามมัน และกลับมาเริ่มต้นใหม่ให้เร็วที่สุด
6.กล้าที่จะฝันกลางวัน
การฝันกลางวันดูเป็นเรื่องที่ไม่ฉลาดสำหรับสังคมทั่วไป แต่สำหรับครีเอทีฟที่ดีแล้ว การฝันกลางวันคือวิธีการหนึ่งที่คุณจะได้ปลดปล่อยความคิดให้เป็นอิสระ พร้อมกับได้ฝึกความจำ ความคิดสร้างสรรค์ ตลอดจนการทำงานของสมองไปในตัวด้วย
7.ซึมซับสิ่งรอบตัว
เมื่อหลุดจากฝันกลางวันแล้ว อีกสิ่งที่จะช่วยให้มนุษย์ครีเอทีฟลับความคิดให้คมยิ่งขึ้นก็คือการสังเกตคนรอบตัว ซึมซับสิ่งรอบข้าง และนำสิ่งเหล่านั้นมาเป็นแรงบันดาลใจ จิตรกรที่ประสบความสำเร็จรู้ว่าคนเราเคลื่อนไหวอย่างไร เช่นเดียวกับนักเขียนที่รู้ว่าคนเราพูดอย่างไร
8.มั่นใจ
ปัญหาอย่างหนึ่งของครีเอทีฟหลายคนคือไม่มั่นใจในความสามารถของตัวเอง และไม่พร้อมที่จะรับมือกับกระแสตอบรับเชิงลบ สุดท้ายแล้ว ศัตรูสำคัญที่สุดก็คือตัวคุณเอง หากก้าวข้ามความไม่มั่นใจและพร้อมเผชิญความผิดหวังในโลกกว้างได้ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จก็ย่อมมีมากกว่าคนที่จงใจขโมยความสำเร็จจากตัวเองเพียงเพราะขาดความมั่นใจ
9.กล้าตั้งคำถาม
การตั้งคำถามอย่างถูกจุดคือเชื้อเพลิงชั้นดีสำหรับความคิดสร้างสรรค์ เพราะคำตอบที่ได้แต่ละครั้งล้วนทำให้คุณฉลาดขึ้น การตั้งคำถามบ่อยๆ อาจแสดงถึงความอ่อนด้อยของตัวเองบ้าง แต่เมื่อแลกมากับข้อมูลที่เพิ่มพูนขึ้นแล้วก็ถือว่าคุ้มค่า การตั้งคำถามยังเป็นวิธีการเรียนรู้จากคนอื่นที่ดีและทำให้คุณเก่งกว่าคนอื่นในที่สุดด้วย นี่อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คนอย่างสตีฟ จ็อบ บิล เกตส์ หรืออีลอน มัสก์ โดดเด่นกว่ามนุษย์ครีเอทีฟคนอื่นๆ ในอุตสาหกรรมก็เป็นได้
10.ทำตามความฝันตัวเอง
คุณมีโอกาสที่จะเป็นมนุษย์ครีเอทีฟที่ประสบความสำเร็จมากขึ้นหลายเท่าหากคุณกำลังทำงานที่รัก มนุษย์ครีเอทีฟที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่เลือกงานตามความฝันของตัวเอง ไม่ว่าเส้นทางไปสู่งานนั้นจะยากเย็นแค่ไหนก็ตาม หลายครั้งที่คุณอาจถูกบอกให้หางานดีๆ ทำ แต่จงเชื่อเถอะว่าหากเลือกที่จะทำตามความฝันแล้ว สิ่งที่ได้กลับมาในท้ายที่สุดนั้นเป็นมากกว่างานดีๆ แน่นอน
แหล่งข้อมูลและแหล่งภาพจาก https://designschool.canva.com/blog/10-things-creative-people-differently/