เมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายน 2555 เวลา 14.00-16.00 น. ณ ห้องมินิเธียเตอร์ 1 อุทยานการเรียนรู้ TK park จัดฉายภาพยนตร์เรื่อง “เพื่อนไม่เก่า” ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือระหว่างสำนักงานอุทยานการเรียนรู้ TK park และหอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) ทั้งนี้บรรยากาศภายงานได้รับความสนใจจากทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่รุ่นเล็กหน้าใสยันรุ่นใหญ่วัยเก๋าต่างจับจองพื้นที่ส่วนตัวกันอย่างแน่นขนัด
สำหรับภาพยนตร์เรื่อง “เพื่อนไม่เก่า” เป็นฝีมือการกำกับของ เกรียงไกร วชิรธรรมพร ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่ถ่ายทอดเรื่องราวมิตรภาพระหว่าง “เพื่อน” ผ่านตัวละครที่มีชื่อว่า นัท, ต๋อย, ข้าว, โป้ และกี กลุ่มเพื่อนสนิทสมัยมัธยมศึกษาตอนปลายที่ได้ไปบนบานกับพระธาตุลำปางด้วยความคึกคะนองว่า ถ้าหากนัทสามารถเอ็นทรานซ์ติดที่ลำปาง พวกเขาทั้ง 5 คนจะปั่นจักรยานจากกรุงเทพฯ ขึ้นมาที่ลำปาง เพื่อเป็นการแก้บน
เมื่อเวลา 2 ปีผ่านไป นัทก็สามารถสอบติดที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดลำปาง กลุ่มเพื่อนทั้ง 5 คน รวมถึง “บาส” เพื่อนเก่าสมัยมัธยมอีกคนหนึ่งของนัท จึงจำเป็นที่จะต้องกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง เพื่อแก้บนให้สำเร็จ โดยระหว่างการเดินทางต่างเต็มไปด้วยเหตุการณ์ต่างๆ รวมไปถึงอุปสรรคนานัปการที่กระโจนทะยานเข้าใส่ไม่ยั้ง งานนี้จึงกลายเป็นทริปอลเวงสุดหฤหรรษ์ที่จะพันผูกมิตรภาพที่สั่งสมมานานของพวกเขาให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ภายหลังจากการฉายภาพยนตร์จบลงก็เข้าสู่ช่วงเสวนา โดยมี คุณชาญชนะ หอมทรัพย์ คอลัมนิสต์นิตยสาร Bioscope และตัวแทนจากหอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) เป็นวิทยากร และ คุณยุทธินัย ยั่งเจริญ หรือพี่ต้อง นักจัดการความรู้ ฝ่ายกิจกรรม ประจำอุทยานการเรียนรู้ TK park เป็นพิธีกรดำเนินการเสวนา
“ภาพยนตร์เรื่อง เพื่อนไม่เก่า เป็นภาพยนตร์ที่ดำเนินเรื่องในลักษณะของ Road Movie ซึ่งก็คือ หนังที่ว่าด้วยการเดินทาง โดยเป็นการเดินทางจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งของกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งจะเป็นครอบครัว หรืออาจจะเป็นเพื่อนกันก็ได้ ลองนึกสมมติว่าเราไปเข้าค่ายลูกเสือ เราเดินทางกันไปเป็นหมู่คณะ ซึ่งในหมู่ลูกเสือก็จะมีการเดินทางจากที่หนึ่งไปอีกทีหนึ่งซึ่งในลักษณะนี้ก็จะเป็น Road Movie เป็นการว่าด้วยเรื่องราวระหว่างทาง ซึ่งในระหว่างทางก็จะพบเจอกับเหตุการณ์ รวมไปถึงอุปสรรคต่างๆ กลายเป็นช่วงเวลาที่ทำให้แต่ละคนได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน”
“สำหรับหนังเรื่อง เพื่อนไม่เก่า ส่วนใหญ่นักแสดงนำในเรื่องมาจากนักร้อง นักดนตรี ของวงที่มีชื่อว่า ออกัส ซึ่งจริงๆ การดึงนักร้องขึ้นมาเล่นข้อดีก็คือ มีแฟนคลับที่ติดตามดูผลงานแน่นอน สองก็คือ ไม่มีแค่หนัง แต่ยังจะรวมไปถึงเพลงด้วย อย่างในเรื่องนี้ก็จะมีเพลงที่ทางวงออกัสแต่งเอง และร้องเองด้วย”
“หนังไทยที่ทำออกมาดี ในลักษณะแนว Road Movie ก็คือเรื่อง เราสองสามคน ซึ่งจะเป็นการเที่ยวต่างประเทศ หรือแม้แต่ กาลครั้งหนึ่งเมื่อเช้านี้ ก็เหมือน Road Movie คือแนวนี้จริงๆ มันมีคำศัพท์แฝงอยู่ หมายถึงหนังที่ว่าด้วยการเดินทาง คือเดินทางเท้า เราก็เรียกว่า Road Movie ฉะนั้นในกาลครั้งหนึ่งเมื่อเช้านี้ มีทั้งขึ้นรถ ขึ้นรถไฟ มันก็คือหนังประเภทนี้เช่นกัน”
“ตัวละครของพีทค่อนข้างน่าสนใจ เพราะว่าด้วยลุคของเขาจะเป็นในเชิงกลายๆ ของความเป็นผู้ใหญ่ เราจะเห็นได้ว่าตัวละครตัวนี้ดูจะเป็นคนที่กร้านโลกมากที่สุดในกลุ่มเพื่อน ด้วยวิธีคิดอะไรบางอย่าง และการไม่ได้เรียนต่อ ซึ่งถ้าหากลองเห็นตัวละครอีกตัวที่เด็กที่สุดในกลุ่มเพื่อน ก็จะเห็นถึงความหลากหลายของหนังเรื่องนี้”
“สำหรับผม หนังเรื่องนี้ค่อนข้างน่าเสียดาย ที่ไม่ประสบความสำเร็จในด้านรายได้มากเท่าที่ควร มันก็เลยทำให้สุดท้ายแล้วเป็นเพียงหนังที่พูดถึงวัยรุ่นที่พยายามจะโตด้วยทุกวิถีทาง คือเราจะเห็นว่าหนังได้นำพาวัยรุ่นไปเจอกับเรื่องโหด เจอกลุ่มวัยรุ่น เจอผู้ใหญ่ร้ายๆ เจอกับความมืดมนบางอย่าง ซึ่งก็เป็นปัญหาเดียวเหมือนกับหนังเรื่อง กาลครั้งหนึ่งเมื่อเช้านี้”
ก่อนจบการเสวนาพี่ต้องยังได้แนะนำภาพยนตร์ที่จะนำมาจัดฉายในครั้งต่อไป ก็คือภาพยนตร์ที่มีชื่อว่า “ข้างหลังภาพ” ซึ่งดัดแปลงมาจากนวนิยายปลายปากกาของศรีบูรพา มีทีเด็ดทางด้านการใช้ภาษาที่สละสลวย โดยได้รับการยกย่องว่ามีความงามในเชิงวรรณศิลป์ ซึ่งจะจัดฉายในวันอาทิตย์ที่ 29 กรกฎาคม 2555 ณ ห้องมินิเธียเตอร์ 1 อุทยานการเรียนรู้ TK park ชมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น สำหรับสมาชิก TK park เท่านั้น!
มณีรัตน์ บัวบุตร
นักศึกษาฝึกงานฝ่ายกิจกรรม รายงาน