ทำอย่างไรให้เด็กๆ ปลอดภัยบน Youtube
ช่วงปีที่ผ่านมา โลกออนไลน์เกิดเรื่องราวน่ากลัวของ Momo Challenge ไวรัลที่แพร่กระจายแทรกตัวไปในโฆษณาการ์ตูนบน Youtube ยอดนิยมของเด็กๆ เป็นภาพสัตว์ประหลาด หน้าตาคล้ายผู้หญิง มีดวงตาปูดโปน ช่วงล่างมีลักษณะคล้ายนก พร้อมข้อความข่มขู่ บอกให้เด็กๆ ทำสิ่งที่ Momo ต้องการ เช่น ทำร้ายตัวเองและผู้อื่น จนไปถึงการฆ่าตัวตาย พร้อมกับขู่ห้ามบอกใครเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นเจ้า Momo จะตามมาหาถึงบ้าน
ล่าสุด Momo Challenge จะได้รับการยืนยันแล้วว่าเป็นเพียงการสร้างกระแสเท่านั้น เพราะไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่ามีใครเสียชีวิตจากไวรัลนี้จริงๆ แต่บรรดาพ่อแม่ ผู้ปกครอง คงต้องมาหาแนวทางป้องกันเด็กๆ จากคลิปไวรัลที่น่ากลัวแบบนี้บน Youtube อันเป็นสื่อโปรดของเด็กๆ ทั่วโลก เพราะเราไม่รู้หรอกว่า ภัยร้ายออนไลน์แบบนี้จะเกิดขึ้นอีกเมื่อไร วันนี้เรามีแนวทางมานำเสนอถึง 6 ข้อด้วยกัน ไปเริ่มกันเลย...
1. ลองใช้แอปพลิเคชั่น Youtube สำหรับเด็ก
ในปัจจุบันบนสมาร์ทโฟนของเรามีแอปพลิเคชั่นใหม่ๆ เพื่อความสะดวกสบายให้เลือกใช้มากขึ้น แอปพลิเคชั่นสำหรับเด็กก็เช่นกัน เป็นแอปพลิเคชั่นสำหรับการดูวิดีโอบนอินเทอร์เน็ตและบนยูทูปของเด็กซึ่งผู้ปกครองมั่นใจได้เลยว่าเด็กจะไม่สามารถอัพโหลดวิดีโอได้ด้วยตนเองและไม่มีโฆษณาแสดงในขณะที่เด็กๆกำลังดูวิดีโอ ดังนั้นเด็กๆก็จะสามารถดูวิดีโอได้อย่างปลอดภัย
2. สร้าง Playlist สำหรับเด็ก
สร้าง playlist สำหรับเด็กๆ โดยเฉพาะ เมื่อเลือกวิดีโอแล้วก็ควรตรวจเช็คก่อนจะกดเพิ่มเข้าไปใน playlist ทุกครั้งเพื่อป้องกันเนื้อหาไม่เหมาะสมแอบแฝง
3. เลือกรับชมช่องที่เชื่อถือได้ และ ช่องทางการเท่านั้น
วิธีที่จะรู้ว่าช่องนั้นเป็นช่องทางการหรือไม่นั้น ก็คือการมองหาเครื่องหมายยืนยันสถานะของช่องทางการ ตรวจสอบโดยการมองหาเครื่องหมายถูกที่อยู่ข้างชื่อช่อง Youtube
4. ปิดปุ่มการเล่นวิดีโออัตโนมัติ
ปิดปุ่มการเล่นวิดีโออัตโนมัติ เพื่อเป็นการไม่ให้สุ่มวิดีโอที่ไม่เกี่ยวข้อง หรือวิดีโอที่ไม่เหมาะสมเล่นอัตโนมัติในขณะที่เด็กๆกำลังรับชมวิดีโออยู่
5. รับชม Youtube ไปพร้อมกันกับเด็กๆ
เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ผู้ปกครองสามารถนำไปปรับใช้ได้ คือ ไม่ควรปล่อยให้เด็กรับชม Youtubeเพียงลำพัง ควรรับชมและให้คำแนะนำไปพร้อมๆกับเด็กๆและพูดคุยกับพวกเขาเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขากำลังดูอยู่ควบคู่กับการสอน โดยการเปิดบนโทรทัศน์จอใหญ่และไม่ให้เด็กๆใส่หูฟัง เพื่อป้องกันเด็กๆรับชมสิ่งที่ไม่เหมาะสม และหากพวกเขาเจอสิ่งที่ไม่เข้าใจให้บอกหรือสอบถามผู้ปกครองทันที
6. ให้ทำความเข้าใจกับญาติ หรือพี่เลี้ยงก่อนจะยื่นโทรศัพท์ให้เด็กๆ
อธิบายให้ผู้ที่ดูแลเด็กๆ เข้าใจเกี่ยวกับการที่จะให้เด็กดู Youtube ว่าต้องระมัดระวังความปลอดภัยของเด็กๆมากแค่ไหนและเพราะอะไร เพื่อให้ผู้ที่ใกล้ชิดเด็กๆคอยช่วยระมัดระวัง ไม่ให้เด็กรับชมสิ่งที่ไม่เหมาะสมและให้คำแนะนำแก่เด็กๆได้
แม้จะมีการตรวจสอบข้อมูลแล้วว่าคลิป Momo เป็นเพียงแค่การสร้างกระแสเท่านั้น YouTube เองก็เริ่มระวังการโฆษณามากขึ้น โดยดำเนินการเชิงรุกตั้งแต่มีกระแสนี้ขึ้น รวมถึงการประกาศเมื่อเร็วๆ นี้ว่าพื้นที่แสดงความคิดเห็นในวิดีโอของเด็กๆ ผู้เยาว์จะถูกปิดชั่วคราว ไม่มีการโฆษณาใดๆ บนวิดีโอที่เกี่ยวกับ Momo โดยเด็ดขาด แต่เหตุการณ์นี้ก็เป็นบทเรียนให้พ่อแม่ผู้ปกครองต้องหันมาให้ความสนใจ ใส่ใจและให้คำแนะนำลูกหลานอย่างใกล้ชิดมากขึ้น สอนให้เขารู้จักระวังตัว คอยสังเกตด้วยว่าเขามีพฤติกรรมเปลี่ยนไปหรือไม่ และต้องทำให้เขาวางใจที่จะปรึกษาเรื่องราวต่างๆได้ เพราะในปัจจุบันสื่ออินเทอร์เน็ตไม่ใช่เรื่องไกลตัวเด็กๆอีกต่อไป ความใส่ใจและให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด จะเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันในการใช้สื่อให้กับเด็กๆ ได้ ... ก่อนจะสายเกินไป
ที่มา https://offspring.lifehacker.com
https://pantip.com/topic/38602839
https://www.youtube.com/watch?v=TVC9vWkn8hA
https://www.techxcite.com/topic/30139.html
เรียบเรียงโดย นางสาวธนัชชา จุฑาเกตุ
นางสาวคุณภัทร วงศ์นวภัทร