ภาพโดย KamranJackson297 เผยแพร่บน deviantart.com
อุทยานการเรียนรู้ TK Park มีหนังสือการ์ตูนชุดพร้อมให้สมาชิกยืมอ่านมากมายโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่หนึ่งในมังงะซีรีส์สุดฮิตที่สมาชิก TK Park ยืมอ่านกันอย่างต่อเนื่อง คือ ดาบพิฆาตอสูร Demon Slayer ทั้งภาคภาษาไทยแบบเล่ม ที่ TK Park ชั้น 8 centralwOrld↗ และ ภาคภาษาอังกฤษบนแอปพลิชัน Libby↗
และในโอกาสที่ดาบพิฆาตอสูร Demon Slayer รูปแบบภาพยนตร์ ภาค 4 กำลังเข้าฉายในประเทศไทยและอีกหลายประเทศ TK Park จึงถือโอกาสนี้ สรุปความเป็นมาและเรื่องราวจากทุกซีซัน—ตั้งแต่ปฐมบทจนถึงปัจจุบัน—โดยจะเล่าเรื่องราวดาบพิฆาตอสูรในแบบฉบับปราณทุกกระบวนท่า ว่าด้วยเรื่อง ‘สิ่งที่อสูรทำได้ แต่มนุษย์อย่างเราอาจทำไม่ได้’
คำเตือน: เนื้อหาในดาบพิฆาตอสูรภาคนี้ เป็นเรื่องราวที่เชื่อมต่อระหว่างช่วงปลายซีซัน 3 กับช่วงต้นซีซัน 4 “ปาฏิหาริย์แห่งสายสัมพันธ์ สู่การสั่งสอนของเสาหลัก” ซึ่งเป็นซีซันใหม่ และเนื่องด้วยบทความนี้เปิดเผยเนื้อหาบางส่วนจากซีซันใหม่ ดังนั้น ใครที่ยังไม่ได้ชมภาพภาพยนตร์ภาคใหม่นี้ สามารถข้ามเนื้อหาช่วงท้ายเพื่อรอไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์และความประทับใจอย่างเต็มที่ด้วยตนเองในโรงภาพยนตร์
ปราณมนุษย์ ไร้กระบวนท่า ภาคปฐมบท
ดาบพิฆาตอสูร เปิดเรื่องด้วยบรรยากาศอันสุขสงบเรียบง่าย ตัวละครเอก หนุ่มน้อยทันจิโร่ แบกถ่านลงเขาเพื่อไปขายในเมือง แต่เมื่อกลับมายังบ้านในป่า กลับพบว่าตัวเองถูกอสูรร้ายพรากเอาครอบครัวอันเป็นที่รักไป เหลือไว้เพียง เนซึโกะ น้องสาวที่กลายร่างเป็นอสูร ทันจิโร่ได้พบกับกิยู หนึ่งในเสาหลักของหน่วยพิฆาตอสูร ที่เสนอเส้นทางสู่การเป็นนักล่าอสูร เขาจึงเข้ารับการฝึกฝนตัวเอง ด้วยความหวังที่จะช่วยน้องสาวของตนให้กลับคืนเป็นมนุษย์ดังเดิม
ทันจิโร่และเหล่านักล่าอสูรฝึกหัดล้วนต้องฝึกตน เพื่อจะมีความสามารถในการต่อสู้กับอสูรที่หมายจะกัดกินผู้คน ไม่ว่าจะฝึกสมรรถนะทางร่างกาย เช่น วิชาดาบ แต่ในขณะที่ฟากมนุษย์ต้องพยายามอย่างหนัก ฝั่งอสูรกลับไม่เป็นแบบนั้น 'ถ้าอยากอัปเกรดตัวเอง' ก็แค่ล่ามนุษย์ที่อ่อนแอมาเป็นอาหาร ยิ่งเพิ่มจำนวนการกิน ก็ยิ่งเพิ่มพลังและความแข็งแกร่ง ช่างง่ายดายซะเหลือเกิน แล้วแบบนี้ มนุษย์จะสู้เหล่าอสูรได้อย่างไร?
โปสเตอร์ภาพยนตร์ ดาบพิฆาตอสูร ภาค 1
ปราณชีวิต กระบวนท่าที่ 1 ภาคศึกรถไฟสู่นิรันดร์
นับตั้งแต่อสูรได้ถูกเล่าถึงในปฐมบท ผู้ติดตามจะเห็นได้ว่า ‘ชีวิต’ คือข้อแตกต่างที่สำคัญระหว่างอสูรกับมนุษย์ ความอยู่ยงคงกระพัน (ถ้าไม่ถูกฟันคอขาดไปซะก่อน) คือข้อได้เปรียบของการเป็นอสูรที่มนุษย์ธรรมดาไม่อาจมี
การจากไปของเรนโงคุ เสาหลักเพลิง ในภาคศึกรถไฟสูุ่นิรันดร์ คือเครื่องยืนยันได้ดีว่าข้อเสียของมนุษย์คือข้อจำกัดของชีวิต แม้มนุษย์จะเก่งกาจและทรงพลังยิ่งใหญ่สักเพียงใด ก็ไม่อาจเอาชนะอสูรที่มีร่างกายเป็นนิรันดร์ ไม่รู้จักเจ็บ ไม่รู้จักตาย เพียงแค่เผยตัวเฉพาะในยามของรัตติกาล เท่านี้ก็ปลอดภัยแล้ว
แต่น่าแปลกที่มุซัน ผู้ให้กำเนิดเหล่าอสูร กลับอยากพิชิตซึ่งแสงตะวัน มีกิเลสที่ผลักดันเขาให้รู้สึกต้องการใช้ชีวิตในยามที่มีแสงสว่าง
โปสเตอร์ภาพยนตร์ ดาบพิฆาตอสูร ภาค 2
ปราณสิ้นหวัง กระบวนท่าที่ 2 ภาคย่านเริงรมย์
เป็นการต่อสู้ระหว่างเหล่าอสูรกับเหล่านักล่าอีกครั้ง ยิ่งไปกว่านั้น ศึกครั้งนี้ยังเป็นการต่อสู้ของอสูรจันทราข้างขึ้นลำดับที่ 6 อย่างไรก็ตาม ฟากหน่วยพิฆาตอสูรก็นำทีมโดยอุซุย เสาหลักเสียงที่มีฝีมือฉกาจ (พอ ๆ กันกับความหล่อเหลา) ทว่า ขณะที่ฟากอสูรอย่างดาคิกำลังจะเพลี่ยงพล้ำ กิวทาโร่ อสูรคนพี่กลับปรากฏตัว เงื่อนไขของการจบศึกครั้งนี้ มีแต่จะต้องสะบั้นคอของสองพี่น้องนี้พร้อมกันเท่านั้น
หนึ่งเสาหลักและสามนักล่าอสูรฝึกหัดจึงแบ่งแยกการต่อสู้เป็นสองทาง เซนอึทสึ กับอิโนะสุเกะ รับผิดชอบดาคิ ปรากฏว่า เซนอึทสึนั้นกรีดร้องจนน็อกหลับไม่รู้ตัว (เช่นเคย) และอิโนะสุเกะก็บาดเจ็บสาหัส อุซุยเองก็ถูกพิษของกิวทาโร่ และแม้แต่ทันจิโร่ก็สะบักสะบอมนิ้วหักไปหมด เรียกได้ว่าเป็นอีกการต่อสู้ที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง พลังของมนุษย์มีหรือจะสู้ความหนังเหนียวคอเหนียวของเหล่าอสูรได้
แม้สุดท้ายสถานการณ์จะคลี่คลาย แต่หน่วยพิฆาตอสูรก็ต้องเสียเสาหลักไปอีกหนึ่งอยู่ดี
โปสเตอร์ภาพยนตร์ ดาบพิฆาตอสูร ภาค 3
ปราณอ่อนแอ กระบวนท่าที่ 3 ภาคหมู่บ้านช่างตีดาบ
รวมกันเราอยู่ แยกหมู่เราตาย คำกล่าวนี้ย้อนแย้งกับเนื้อเรื่องในดาบพิฆาตอสูร ภาคหมู่บ้านช่างตีดาบ เพราะแม้ว่ามนุษย์จะรวมตัวกันอยู่มากมาย ก็ไม่อาจเอาชนะอสูรร้ายได้ เพราะมนุษย์นั้นช่างอ่อนแอ แม้จะมีดาบอยู่ในมือ เพราะเป็นช่างตีดาบ แต่ก็ไม่ใช่นักดาบที่จะใช่ดาบอย่างคล่องแคล่วในการขับไล่เหล่าอสูร
ในภาคนี้ ตัวแปรสำคัญก็คือมนุษย์อ่อนแอที่เป็นเป้าหมายของสองอสูร นั่นก็คือ อสูรจันทราข้างขึ้นลำดับที่ 5 เกียกโกะ และอสูรจันทราข้างขึ้นลำดับที่ 4 ฮังเทงงู แม้ขณะที่เนซึโกะกำลังจะถูกแสงจากดวงตะวันเผาทำลาย ทันจิโร่ยังต้องเลือกว่าจะปกป้องน้องสาว หรือช่วยมนุษย์ที่อ่อนแอให้รอดพ้นจากอสูรฮังเทงงูที่ยังไม่ยอมตาย ถ้าใครเพิ่งอ่านหรือเพิ่งดูภาคนี้มาจะนึกออกเลยว่า ขนาดฮังเทงงู อสูรตัวเล็กจ้อยที่แสนอ่อนแอ ยังแกร่งกล้าพอจะล่ามนุษย์ต่อแม้หัว (ปลอม) ของดขาจะหลุดออกจากบ่าไปแล้ว
บทสรุปของภาคนี้อาจกล่าวได้ว่า หากมนุษย์ไม่อ่อนแอ ก็คงไม่ต้องกลัวเหล่าอสูรตั้งแต่แรก
โปสเตอร์ภาพยนตร์ ดาบพิฆาตอสูร ภาค 4
ปราณไร้ซึ่งหนทาง กระบวนท่าที่ 4 ภาคการสั่งสอนของเสาหลัก
มาถึงในภาคล่าสุดนี้ แม้เนื้อหาในภาพยนตร์จะยังไม่คืบหน้าไปมากนัก แต่ก็ล้วนปูทางสู่การต่อสู้ครั้งใหญ่ระหว่างหน่วยพิฆาตอสูรกับเหล่าอสูร เมื่อเนซึโกะที่เป็นอสูรสามารถเอาชนะแสงตะวันได้ เนซึโกะจึงกลายเป็นเป้าหมายสำคัญของมุซันทันที ดังนั้น หน้าที่ของเหล่าเสาหลักจากที่เฝ้าไล่ล่าสังหารอสูรอยู่แล้ว จึงได้รับหน้าที่ให้ต้องสั่งสอนเหล่านักล่าอสูรอย่างเข้มข้นขึ้น
เมื่อต้องเปลี่ยนบทบาทจากนักล่าเป็นผู้ตั้งรับกลาย ๆ นอกจากไม่อาจคาดเดาได้ถึงศึกครั้งต่อไป อีกทั้งเหล่านักล่าอสูรก็ยังมีฝีมือไม่สูง แล้วมวลมนุษยชาติจะทำเช่นไร สถานการณ์ล้วนเต็มไปด้วยความไร้ซึ่งหนทาง แต่เหล่าเสาหลักก็ยังคงมุ่งมั่นสั่งสอน หวังว่าหน่วยพิฆาตอสูรที่เหลืออยู่ จะต่อกรกับเหล่าอสูรที่ 'แค่กิน' มนุษย์ ก็แข็งแกร่งได้
อ่านมาถึงตรงนี้ แฟน ๆ ดาบพิฆาตอสูรคงรู้สึกเหมือนกันว่า แม้คุณสมบัติของเหล่าอสูรจะน่าอิจฉาไม่น้อย ไม่ว่าจะความอยู่ยงคงกระพัน และความแข็งแรงที่ได้มาโดยง่าย แต่ถ้าความแข็งแกร่งนั้น ต้องแลกมาด้วยการเป็นทุกข์ขั้นสูงสุดแบบไม่รู้จบอย่างเหล่าอสูรแล้ว การเป็นมนุษย์อาจเติมเต็มตัวเรามากกว่าก็เป็นได้