ช่วงบ่ายวันหยุดกลางฤดูร้อนแบบนี้ เชื่อว่าหลายๆ คนคงอยากจะนอนตากแอร์ดำดิ่งไปกับนิยายเล่มใหม่ของนักเขียนคนโปรด มากกว่าจะพาตัวเองไปท้าทายอานุภาพของแสงอาทิตย์กันเป็นแน่ นอกจากจะได้หลบแสงแดดในช่วงเดือนที่ร้อนที่สุดของปีแล้ว การได้ใช้เวลาไปกับตัวหนังสือบนหน้ากระดาษยังเหมือนเป็นการเปิดประตูสู่โลกอีกใบ โลกที่คุณจะได้สนุกไปกับจินตนาการที่น่าตื่นตา ตลอดจนความเป็นไปได้ใหม่ๆ ที่คุณไม่อาจสัมผัสได้ในชีวิตจริง
นอกจากเนื้อหาที่ถูกสร้างโดยอ้างอิงจากโลกความเป็นจริงแล้ว ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา กระแสนิยายที่มีพื้นฐานโครงสร้างจากโลกที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ หรือที่เราเรียกว่า ‘Universe’ หรืออาจย่อสั้นๆ ว่า ‘Verse’ ก็กำลังได้รับความนิยมไม่แพ้กัน ความน่าสนใจของนิยายสไตล์นี้คือเราจะได้สนุกไปกับคอนเซปต์และกฎใหม่ๆ ที่ผู้คิดค้น Verse สร้างขึ้น ทำให้ได้สีสันและรสชาติที่แตกต่างออกไป
วันนี้ TK Park เลยอยากขอพาคุณผู้อ่านทดลองเปิดประตูสู่โลกใบใหม่ ไปทำความรู้จักกับ 7 Verse นิยายที่กำลังเป็นที่นิยมกัน!
Omegaverse - โลกแห่งชนชั้น
เริ่มต้นกันด้วย Verse ที่ได้รับความนิยมที่สุดซึ่งมักพบเห็นได้ทั้งในนิยายแบบชายหญิง และนิยาย LGBTQ+ หรือบางคนอาจเรียก Verse ประเภทนี้ว่า ABO Verse ซึ่งมาจากกฎของจักรวาลนี้ที่คนทั่วไปนอกจากจะมีเพศหญิงชายแล้ว ยังมีเพศรองเป็นตัวกำหนดเพศสภาพและชนชั้นทางสังคมด้วย
โดยผู้ที่อยู่บนสุดของพีรามิด มักถูกจัดให้เป็นชนชั้นสูง มีพลังแข็งแกร่งแบบจ่าฝูง และมีจำนวนน้อยจะถูกเรียกว่า อัลฟ่า (Alpha) ส่วนพวกที่มีจำนวนมากที่สุด มักเป็นคนธรรมดา ไม่มีฟีโรโมนหรือความพิเศษเหมือนกลุ่มอื่นๆ จะถูกเรียกว่า เบต้า (Beta) และกลุ่มสุดท้าย กลุ่มที่ถูกจัดให้เป็นชนชั้นล่างของสังคม ค่อนข้างอ่อนแอ สามารถตั้งครรภ์ได้ทั้งชายและหญิง คือกลุ่มที่เรียกกันว่า โอเมก้า (Omega) นั่นเอง
ซึ่งแนวคิดการแบ่งชนชั้นแบบนี้ได้ถูกยืมมาจากการแบ่งชนชั้นในกลุ่มหมาป่า ทำให้ตัวละครมักมีสัญชาติญาณบางอย่างที่เหมือนสัตว์ป่า เช่น การดึงดูดกันด้วยฟีโรโมน, อาการฮีต (Heat) หรือความต้องการผสมพันธุ์ในโอเมก้าซึ่งเกิดขึ้นทุกเดือน และด้วยความที่เซตติ้งของโลก Omegaverse นั้นมีอะไรให้หยิบมาเล่นได้มาก เราจึงสามารถพบนิยายค่อนข้างหลากหลายแนว ตั้งแต่โรแมนติกคอเมดี้ ดราม่า ไปจนถึงนิยายการเมืองว่าด้วยการปลดแอกทางชนชั้น
Rainverse - สายฝนสื่อใจ
มาต่อกันที่ Verse ที่สองซึ่งค่อนข้างให้ Vibe ที่โรแมนติกไม่เบา เพราะในโลกใบนี้สิ่งที่เป็นเซตติ้งหลักของเรื่องก็คือสายฝนและช่วงเวลายามที่ฝนพรำ ว่ากันว่าในช่วงเวลาที่ฝนตก เราทุกคนจะเกิดอาการหูดับ ถูกตัดขาดจากเสียงแวดล้อม ทำให้ไม่สามารถได้ยินเสียงใดๆ ไม่ว่าจะเป็นเสียงพูดของคนข้างๆ หรือแม้แต่เสียงเพลงก็ตาม ทำให้นอกจากนั่งเงียบๆ และใช้เวลากับตัวเองแล้ว ก็ได้แต่สื่อสารกับคนอื่นผ่านการเขียนหรือภาษากายเท่านั้น
แต่มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เราจะได้ยินเสียงของอีกฝ่ายขณะฝนตกไม่ว่าจะอยู่ไกลกันแค่ไหน คนคนนั้นก็คือโซลเมทหรือเนื้อคู่ของเรานั่นเอง ลองจินตนาการว่าถ้า Verse นี้เกิดขึ้นในไทยที่ฝนตกไปแล้วอย่างน้อยหกเดือน คงได้แต่ต้องรีบตามหาโซลเมทให้เจอเพื่อให้ไม่ต้องทนเหงาเหมือนอยู่ในห้วงอวกาศทุกครั้งที่ฝนพรำลงมา
Sentinel Verse - จักรวาลพลังจิต
แฟนตาซีขึ้นอีกขั้นกับเซตติ้งของโลกใบนี้ที่ผู้คนส่วนหนึ่งมีพลังความสามารถทางประสาทสัมผัสเหนือกว่าคนอื่น โดยนอกจากคนธรรมดาที่นับเป็นประชากรส่วนใหญ่ของจักรวาลแล้ว ผู้มีพลังพิเศษใน Verse นี้จะถูกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือ เซนติเนล (Sentinel) ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีประสาทสัมผัสทั้งการได้ยิน มองเห็น ลิ้มรส รับกลิ่น และสัมผัส มากกว่าคนอื่นและค่อนข้างอ่อนไหวเป็นพิเศษ ทำให้เกิดเป็นความสามารถพิเศษเชิงพลังจิต ใช้ในการต่อสู้หรือทำภารกิจต่างๆ ได้นั่นเอง
แต่เพราะความอ่อนไหวต่อสิ่งเร้ารอบข้างนี้เอง ทำให้เมื่อเวลานานไปหรือเผลอใช้พลังมากไป เซนติเนลจะเริ่มถูกบั่นทอนสติ ยิ่งปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้เกิดคลุ้มคลั่งหรือตายได้ จึงจำเป็นต้องมีคนอีกกลุ่มคือ ไกด์ (Guide) หรือผู้เยียวยาที่มีพลังเข้ากันได้ คอยช่วยสื่อสารทางจิตทำให้เซนติเนลสงบลง โดยความสามารถของเซนติเนลและไกด์ยังถูกแบ่งออกเป็นคลาส D C B A และ S เรียงตามพลังอีก นิยายที่เลือกใช้ Verse นี้เป็นเซตติ้งจึงมักเป็นนิยายแนวแอคชั่นแฟนตาซีหรือนิยายไซไฟโลกอนาคต ที่เปิดโอกาสให้ตัวละครพิเศษทั้งสองกลุ่มได้แสดงความสามารถออกมา
Nameverse - ชื่อแห่งโชคชะตา
อีกหนึ่ง Verse ที่ยังคงเล่นกับเรื่องเนื้อคู่หรือโซลเมท แต่ว่าแทนที่โชคชะตาจะบอกมาเป็นนัยๆ พอให้ได้ลุ้น ในโลก Nameverse กลับให้ชื่อของคู่แห่งโชคชะตาติดตัวเรามาตั้งแต่เกิด เหมือนเป็นรอยสักตามตำแหน่งสำคัญที่มองเห็นได้ยากแทนเสียนี่
อ๊ะ แต่อย่าเพิ่งคิดว่าบอกมาขนาดนี้แล้วจะตามหาใครคนนั้นเจอกันง่ายๆ เพราะแทนที่จะให้มาทั้งชื่อนามสกุลพร้อมประวัติที่อยู่เหมือนค้นทะเบียนราษฎร์ สิ่งที่ปรากฎขึ้นบนตัวเราจะมีเพียงแค่ชื่อต้นเท่านั้น โดยในตอนแรกจะยังคงมองไม่เห็นจนกว่าเราจะได้เข้าใกล้หรือแตะตัวคนที่เป็นเนื้อคู่ ชื่อถึงจะค่อยๆ ปรากฎขึ้น นิยายหลายเรื่องจึงมักเอาจุดนี้มาเป็นปมของเรื่อง ทั้งการสร้างสองตัวละครที่มีชื่อต้นเดียวกันทำให้เกิดความสับสนเข้าใจผิด หรือกระทั่งการไม่ยอมบอกชื่อจริงเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้อีกฝ่ายรู้ว่าเราเป็นเนื้อคู่นั่นเอง
Cakeverse - รสชาติที่ไม่เคยลิ้มลอง
สำหรับใครที่ชอบของหวานน่าจะอินกับ Verse นี้ได้ไม่ยาก โดยต้องบอกก่อนว่าแม้เซตติ้งของจักรวาลนี้จะค่อนข้างเล็กกว่า Verse อื่นๆ เนื่องจากผู้คิดค้นชาวเกาหลีได้แรงบันดาลใจต่อยอดมาจากแนวคิดของ Omegaverse แต่ความน่าสนใจของ Cakeverse ก็มีจุดให้หยิบมาเล่นได้ไม่น้อยเลย
ในโลกใบนี้นอกจากคนธรรมดาแล้วยังมีประชากรส่วนหนึ่งที่เกิดมาเป็น เค้ก (Cake) และ ฟอร์ค (Fork) คนกลุ่มที่เป็นเค้กจะเกิดมาพร้อมร่างกายทุกส่วนที่มีรสชาติหอมหวานเหมือนเค้ก ไม่ว่าจะเป็น ผิว เส้นผม หรือแม้แต่เหงื่อและน้ำตา ส่วน ฟอร์ค หรือ ส้อม คือประชากรที่ไม่มีประสาทสัมผัสทางการกิน ไม่สามารถรับรู้กลิ่น รสชาติ และความอร่อยของอาหารทั่วไปได้ แต่สามารถรับรสชาติจากร่างกายของเค้กได้เพียงแหล่งเดียว นิยายที่เขียนโดยใช้เซตติ้งนี้จึงมีตั้งแต่แนวโรแมนติกคอเมดี้ ไปจนถึงนิยายอาชญากรรมสุดดาร์ก แม้จะหาอ่านได้ยากสักหน่อย แต่ก็เป็นการเปิดประสบการณ์ทางการอ่านที่น่าสนใจไม่เบาเลย
Colorverse - สีสันแห่งชีวิต
ลองจินตนาการดูว่าหากโลกใบนี้ปราศจากสีสัน หากทุกวันที่ตื่นขึ้นมาเราสามารถมองเห็นได้เพียงสีขาว เทา และดำ ชีวิตของเราจะเป็นอย่างไร ด้วยคอนเซปต์น่าสนใจเกี่ยวกับโลกที่ไร้สีสันนี้ จึงนำมาสู่อีกหนึ่ง Verse น่าสนใจที่เราอยากหยิบยกมาเล่าให้ฟัง
โลกใบนี้จะมีประชากรจำนวนหนึ่งที่เกิดมาพร้อมอาการตาบอดสี พวกเขาไม่สามารถมองเห็นสีสันใดๆ หรือเห็นได้เพียงสีใดสีหนึ่ง ทางเดียวที่จะสามารถมองเห็นสีสันต่างๆ เหมือนคนทั่วไปได้คือคนกลุ่มนี้ต้องตามหาโซลเมทหรือเนื้อคู่ให้พบก่อนบรรลุนิติภาวะ หากปล่อยเวลาให้เลยผ่านไปนอกจากจะไม่สามารถรักษาอาการตาบอดสีได้แล้ว ตาของพวกเขายังจะค่อยๆ มองไม่เห็นทีละนิดจนกระทั่งตาบอดลงในที่สุด แม้อาจฟังดูค่อนข้างโหดร้าย แต่หลังจากนั้นหากตามหาโซลเมทจนเจอก็ยังมีโอกาสที่ตาจะกลับมามองเห็นได้เป็นปกติอยู่ สำหรับใครที่อยากรู้จัก Verse นี้เพิ่มมากขึ้น นอกจากตามหานิยายอ่านแล้ว เราอยากแนะนำให้ลองดูซีรีส์เกาหลีที่ชื่อว่า Color Rush ด้วย โดยเรื่องนี้นับว่าเป็นซีรีส์ที่ใช้ประโยชน์จากเซตติ้งของ Colorverse ได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว
Coffeeverse - อ้อมกอดของคาเฟอีน
ปิดท้ายด้วย Verse แสนน่ารักที่อวลไปด้วยกลิ่นหอมของคาเฟอีนอย่างโลก Coffeeverse ใบนี้ โดยต้องขอเล่าก่อนว่าผู้คิดค้นคอนเซปต์ของจักรวาลนี้นอกจากเป็นคนไทยแล้ว เจ้าตัวยังใจดีเปิดให้เป็น ‘Open Verse’ ที่นักเขียนทุกคนสามารถนำคอนเซปต์ไปใช้ต่อยอดได้อย่างอิสระอีกด้วย
โดยในโลกใบนี้ได้แบ่งคนออกเป็น 3 ประเภทคือ Coffee กลุ่มคนที่มีอโรม่าเฉพาะตัวเหมือนกลิ่นหอมของกาแฟ รวมถึงร่างกายยังสร้างสารคาเฟอีนอยู่ตลอด ซึ่งสารนี้ค่อนข้างจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของคนกลุ่มที่สองซึ่งก็คือ Cup ซึ่งเมื่อโตขึ้นคนกลุ่มนี้มักจะมีอาการเพลียและง่วงนอนบ่อยๆ ทำให้ต้องได้รับคาเฟอีนผ่านการ Cupping หรือการสัมผัสร่างกายจาก Coffee อยู่เสมอๆ ส่วนคนกลุ่มสุดท้ายคือ Decaf หรือคนปกติที่ร่างกายไม่ได้มีความพิเศษใดๆ แต่สามารถมีความรักกับ Coffee หรือ Cup ได้เหมือนคนธรรมดาใน Verse อื่นๆ นั่นเอง
สิ้นสุดกันไปแล้วสำหรับ 7 Verse ยอดนิยมที่เรานำมาฝาก เชื่อว่าหลายคนคงอยากเริ่มตามหานิยายแนว Universe เหล่านี้มาอ่านกันบ้างแล้วแน่ๆ วันหยุดนี้ถ้ายังไม่มีแพลนไปไหนลองแวะมาเลือกนิยายสนุกๆ เพื่อเปิดประตูสู่โลกแห่งการอ่านใบใหม่ด้วยกันที่อุทยานการเรียนรู้ TK Park กันนะคะ