ใครๆ ก็อยากมีบ้านที่ดูสวย สะอาด เป็นระเบียบ ไม่ใช่แค่ในแง่ความสวยงามสบายตา เพิ่มความน่าอยู่ให้กับที่พักอาศัย แต่บ้านที่เป็นระเบียบยังช่วยสะท้อนถึงรูปแบบการใช้ชีวิตของเจ้าของบ้าน ช่วยเปลี่ยนความคิดให้คุณกลายเป็นคนที่ดีขึ้นได้ เพราะกระบวนการในการจัดบ้านนั้นเต็มไปด้วยรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่หลายคนอาจไม่ทันสังเกต ไม่ว่าจะเป็นการคัดเลือกสิ่งที่สำคัญในชีวิต หรือการเลือกทิ้งสิ่งที่ไม่สำคัญต่อชีวิตอีกต่อไป
สำหรับใครที่มีความคิดอยากเริ่มลุกขึ้นมาจัดระเบียบบ้านเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ เราก็มีหนังสือเกี่ยวกับการจัดบ้านที่แค่อ่านก็อาจเปลี่ยนชีวิตคุณได้มาฝาก หลังจากอ่านจบแล้วอย่าลืมลุกขึ้นมาเปลี่ยนโฉมบ้านใหม่กันนะ!!
1.Japan only! ญี่ปุ่นเขาจัดบ้านกันแบบนี้ไง!
เขียน: Suzuki Nobuhiro
แปล: พนิดา กวยรักษาหนึ่งในประเทศที่มีเทคนิคการจัดระเบียบบ้านที่ดีที่สุดในโลกเห็นจะหนีไม่พ้นญี่ปุ่น ด้วยสภาพภูมิประเทศที่เป็นเกาะเล็กๆ มีพื้นที่จำกัด ทำให้พลเมืองแดนปลาดิบต่างต้องพยายามใช้ประโยชน์จากพื้นที่เล็กๆ นั้นให้ได้มากที่สุด หนังสือ ‘Japan only! ญี่ปุ่นเขาจัดบ้านกันแบบนี้ไง!’ ถูกเขียนขึ้นโดย ซูซุกิ โนบุฮิโระ นักออกแบบชาวญี่ปุ่นที่ออกแบบบ้านมาแล้วกว่า 100 หลัง โดยบอกเล่าเคล็ดลับง่ายๆ ในการจัดบ้านให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ผู้อยู่อาศัย ผ่านการคาดการณ์ล่วงหน้าถึงการใช้งานจริง แล้วออกแบบให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของเจ้าของบ้านในอนาคต ถ้าอยากรู้ว่าคนญี่ปุ่นสามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ทุกตารางนิ้วได้อย่างไร ต้องลองอ่านเล่มนี้เลย!
2.108 เวทมนตร์แห่งการจัดบ้าน : ขยับข้าวของหนึ่งครั้งเปลี่ยนได้ทั้งชีวิต
เขียน: Marie Kondo แปล: อารีรัตน์ นาคสวัสดิ์
ชื่อของ มาริเอะ คนโดะ กลายเป็นที่จดจำไปทั่วโลกหลังจากที่เธอได้ออกมาเผยถึงวิธีจัดระเบียบบ้านที่ไม่เพียงแค่ทำให้บ้านดูเป็นระเบียบแต่ยังสามารถเปลี่ยนชีวิตของใครหลายๆ คนได้ และหลังจากมีเสียงเรียกร้องมานานในที่สุดแม่มดแห่งวงการจัดระเบียบบ้านแห่งญี่ปุ่นคนนี้ก็ได้ตัดสินใจเขียน ‘คัมภีร์ต้องห้าม’ แห่งการจัดระเบียบบ้านแบบที่มีภาพประกอบเล่มนี้ขึ้น เพื่อบอกเล่าถึงเวทมนตร์ในการจัดระเบียบบ้านแบบเจาะลึกและตรงจุด ทำไมการเก็บชุดชั้นในอย่างเหมาะสมทำให้คนโชคดีเรื่องความรักได้ วางกระเป๋าสตางค์ให้ถูกที่แล้วจะเก็บเงินได้มากขึ้นจริงหรือ แค่จัดระเบียบรองเท้าตามหมวดหมู่ชีวิตจะสดใสขึ้นได้อย่างไร หาคำตอบของเวทมนตร์แห่งการจัดบ้านเหล่านี้ได้ใน ‘108 เวทมนตร์แห่งการจัดบ้าน : ขยับข้าวของหนึ่งครั้งเปลี่ยนได้ทั้งชีวิต’
3. Happy Inside
เขียน: Michelle Ogundehin
อยากสัมผัสถึงความสุขที่เอ่อท้นมาจากภายในแค่เริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการจัดบ้าน เรียนรู้ถึงวิธีเพิ่มความสุข สุขภาพดี เติมพลังจากภายในผ่าน 9 ขั้นตอนง่ายๆ ของการจัดบ้าน กับหนึ่งในหนังสือที่ผู้อ่านในเว็บไซต์ Amazon และ Goodreads ยกให้เป็นหนึ่งในหนังสือจัดบ้านที่ต้องอ่านสักครั้งในชีวิตนี้ ตัวหนังสือไม่ได้พูดถึงเพียงการจัดบ้านภายนอกแต่ยังบอกเล่าถึงการเปลี่ยน ‘สิ่งปลูกสร้าง’ ธรรมดาๆ หลังหนึ่งให้กลายเป็น ‘บ้าน’ ที่เต็มไปด้วยความสุขและความสบายใจ ‘Happy Inside’ ยังเหมาะสำหรับคนที่อยากหลีกหนีความวุ่นวายในชีวิตประจำวันด้วยการเปลี่ยนบ้านให้กลายเป็นโซนปลอดภัยสำหรับให้ทั้งกายและใจได้พักผ่อน คนเมืองที่ต้องเผชิยกับความเครียดทุกวันควรได้ลองอ่านเล่มนี้ดูสักครั้ง!
4. Beautifully Organized: A Guide to Function and Style in Your Home
เขียน: Nikki Boyd
เชื่อว่าหลายคนเวลาที่ได้พลิกดูนิตยสารเกี่ยวกับบ้านจะต้องเคยมีความคิดว่าอยากได้บ้านที่ดูสวยเหมือนบ้านตัวอย่างเหล่านี้แน่ๆ และความฝันนั้นก็ไม่ได้ไกลเกินฝันอีกต่อไป เมื่อ นิกกี้ บอยล์ นักเขียนและยูทูปเบอร์ชื่อดังแห่งวงการจัดบ้านได้ลงมือเขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้น ‘Beautifully Organized: A Guide to Function and Style in Your Home’ บอกเล่าถึงเทคนิคในการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ และการปรับปรุงห้องต่างๆ ให้กลายเป็นพื้นที่อันอบอุ่นสำหรับเพื่อนและครอบครัว ตัวหนังสือมาพร้อมภาพประกอบที่สวยเหมือนหลุดมาจากพินเทอเรสต์ นอกจากจะเต็มไปด้วยเทคนิคดีๆ ที่ใช้ได้จริงแล้ว ภาพบ้านสวยๆ ยังช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อ่านอยากลุกขึ้นมาจัดบ้านเดี๋ยวนั้นอีกด้วย
5. ไอเดียจัดบ้าน สวยสะอาดสะอ้าน ไม่ต้องมโน
เขียน: Yuki Kawakami
แปล: วรางคณา นากาชิมา
ตอนที่ได้อ่านชื่อหนังสือเล่มนี้เชื่อว่าหลายคนอาจหลุดหัวเราะออกมากับความตลกของชื่อเรื่อง แต่ในความเป็นจริงแล้วชื่อหนังสือไม่ได้กำลังพูดเกินจริงเลย ‘ไอเดียจัดบ้าน สวยสะอาดสะอ้าน ไม่ต้องมโน’ เป็นหนังสือที่ไม่ได้ทำให้เรานั่งเพ้อไปกับการวางแผนจัดบ้านที่ไม่เกิดขึ้นจริงสักที ทว่าเต็มไปด้วยขั้นตอนที่สามารถทำตามได้จริง ทั้งยังเป็นวิธีง่ายๆ ที่เหมาะกับห้องขนาดเล็กอย่างทาวเฮ้าส์หรือคอนโด เช่น การวางของให้ตั้งฉากกับพื้นเพื่อให้ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย การใช้ของสีเดียวกันเพื่อลดองค์ประกอบความวุ่นวายในห้อง หรือการเพิ่มโคมไฟตั้งพื้นและต้นไม้เพื่อให้ห้องไม่ดูโล่งแห้งจนเกินไป เป็นต้น ตัวหนังสือยังมาพร้อมภาพประกอบง่ายๆ ใครที่อยากลองเริ่มต้นจัดบ้านทีละส่วนสามารถทำตามหนังสือเล่มนี้ได้เลย
6. ชีวิตดีเมื่อมีของน้อย : ปรัชญาความสุขฉบับมินิมอล
เขียน: James Wallman
แปล: นรินทร์ องค์อินทรี
ภายใต้แนวคิดที่ว่า ‘ชีวิตดีๆ ไม่จำเป็นต้องมีของเยอะ’ ของ เจมส์ วอลล์แมน นักคิดชาวอังกฤษ ทำให้หนังสือ ‘ชีวิตดีเมื่อมีของน้อย : ปรัชญาความสุขฉบับมินิมอล’ เล่มนี้น่าจะเหมาะกับคนที่ไม่ชอบสะสมของ หรือคนที่ครอบครองสิ่งของมากมายแต่ก็ยังไม่มีความสุข ในยุคที่ผู้คนจับจ่ายเงินเพื่อซื้อประสบการณ์มากขึ้น การมีสิ่งของน้อยลงจะช่วยทำให้คุณมีพื้นที่ในการออกไปใช้ชีวิตได้มากขึ้น ไม่จำเป็นต้องทำงานหนักเพื่อหาเงินมากๆ ไปช้อปปิ้ง มีเวลาดูแลคนที่คุณรักมากขึ้น รวมถึงมีสุขภาพใจที่แข็งแรง อย่างที่รู้กันว่าอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของการจัดบ้านคือการโละทิ้งสิ่งของที่ไม่จำเป็นในชีวิต ถ้าหากใครที่มีปัญหาในขั้นตอนนี้เราอยากให้คุณลองหยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่านเพื่อปรับเปลี่ยนมุมมองก่อนเป็นเล่มแรก
7. บ้านเล็กจัดให้ใหญ่
เขียน: ลู่เหวย
แปล: วันวิสา ศักดิ์สัมพันธ์กุล
ไม่ใช่แค่ในประเทศญี่ปุ่นที่มีปัญหาเรื่องพื้นที่อยู่อาศัย แม้แต่ในประเทศใหญ่ๆ อย่างจีนเองก็มีคนเมืองจำนวนไม่น้อยที่มีปัญหานี้เช่นเดียวกัน ลู่เหวย นักออกแบบบ้านที่เคยดูแลบ้านให้กับลูกค้าจำนวนมากจึงได้เขียนเทคนิคแนะนำการจัดบ้านเพื่อให้บ้านแคบๆ ดูกว้างขึ้นลงใน WeChat ก่อนที่มันจะได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม และถูกรวบรวมกลายมาเป็นคัมภีร์ความหนากว่า 300 หน้าเล่มนี้ จากประสบการณ์กว่าสิบปีในการทำงานถูกบีบอัดออกมาเป็นคำแนะนำง่ายๆ ที่สามารถหยิบไปใช้ได้จริง เช่น การวางสิ่งของที่ใช้บ่อยไว้ใกล้มือ หรือการเลือกตู้เก็บของที่สามารถซ้อนต่อขึ้นไปในแนวตั้งได้ หัวใจสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ผู้เขียนพยายามถ่ายทอดก็คือการอยู่ร่วมกันของ ‘คน’ และ ‘สิ่งของ’ เพราะปัจจัยที่เป็นตัวแปรในการทำให้บ้านดูกว้างขึ้นหรือไม่ไม่ใช่จำนวนสิ่งของในบ้าน แต่เป็นพฤติกรรมของผู้อยู่อาศัยในบ้านนั่นเอง
8. ชีวิตดีขึ้นทุกๆ ด้านด้วยการจัดบ้านแค่ครั้งเดียว ฉบับมังงะ
เขียน: Marie Kondo
แปล: โยซุเกะ
‘ชีวิตดีขึ้นทุกๆ ด้านด้วยการจัดบ้านแค่ครั้งเดียว’ คือหนังสือสร้างชื่อที่ทำให้หลายๆ คนรู้จักกับ คนโดะ มาริเอะ นักจัดระเบียบบ้านมหัศจรรย์ที่เปลี่ยนชีวิตของหลายคนในการจัดบ้านแค่ครั้งเดียว แต่สำหรับใครที่ไม่ถนัดอ่านหนังสือแบบตัวหนังสือทั้งเล่ม วันนี้หนังสือชื่อดังที่เป็นขุมสมบัติของวงการจัดบ้านได้ถูกถ่ายทอดออกมาในรูปแบบของมังงะหรือหนังสือการ์ตูนแล้ว โดยเนื้อเรื่องเล่าถึง ซุสุกิ จิอากิ สาวโสดวัย 29 ปีที่มักคบกับใครได้ไม่นาน จนกระทั่งวันหนึ่งที่ถูกหนุ่มข้างบ้านมองเห็นบ้านที่รกรุงรังของเธอ ด้วยความอับอายเธอจึงมาสมัครเรียนจัดบ้านกับมาริเอะ ซึ่งหลังจากที่เธอได้เริ่มเรียนรู้ถึงวิถีการจัดบ้านแล้วชีวิตของเธอก็พลันเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง แอบกระซิบว่านอกจากเนื้อหาจะดีแล้วลายเส้นของหนังสือเล่มนี้ยังน่ารักมากๆ ด้วย สายมังงะอ่านได้เพลินๆ แน่นอน
9. The Declutter Challenge
เขียน: Cassandra Aarssen
สำหรับใครที่ไม่สามารถอ่านหนังสือจัดบ้านแล้วเกิดแรงบันดาลใจมากพอในการลุกมาทำตามหนังสือด้วยตัวเอง ‘The Declutter Challenge’ อาจจะเหมาะกับคุณ โดยหนังสือเล่มนี้เป็นเหมือนไกด์บุ๊กที่จะชวนคุณมาชาเลนจ์ตัวเองด้วยการจัดการกับความยุ่งเหยิงรกรุงรังภายในบ้านใน 30 ขั้นตอน สิ่งที่คุณต้องทำก็คือการทำตามขั้นตอนเหล่านี้ พร้อมตอบคำถามเกี่ยวกับตัวคุณและสิ่งต่างๆ ภายในบ้าน หนังสือยังสอดแทรกไปด้วยคำคมสร้างแรงบันดาลใจเพื่อกระตุ้นให้ผู้อ่านให้เดินหน้าลงมือทำอย่างต่อเนื่อง พร้อมเทคนิคที่สอดแทรกลูกเล่นอย่างสร้างสรรค์ทำให้การจัดบ้านไม่กลายเป็นเรื่องน่าน่าเบื่อหรือน่าเหนื่อยหน่ายไปเสียก่อน การใช้หนังสือเล่มนี้เป็นตัวช่วยในการจัดบ้านก็เหมือนการมีโค้ชช่วยควบคุมคุณเพื่อลดน้ำหนักนั่นเอง
10. คุณโทมาริ นักจัดบ้านด้วยการจัดใจ
เขียน: Miu Kakiya
แปล: กนกวรรณ เกตุชัยมาศ
ปิดท้ายด้วยหนังสือที่จะช่วยทำให้คุณได้มองเห็นปัญหาของตัวเองผ่านคนอื่นมากขึ้นกับ ‘คุณโทมาริ นักจัดบ้านด้วยการจัดใจ’ เรื่องเล่าของ โทมาริ โอบะ นักจัดบ้านรุ่นใหญ่ที่ผ่านการช่วยเหลือให้ผู้คนที่ไม่สามารถ ‘คัดเลือก’ และ ‘ทิ้ง’ สิ่งของภายในบ้านก้าวข้ามปัญหาเหล่านั้นมาได้นับร้อยนับพันเคส ภายใต้ความเชื่อที่ว่า ‘คนที่เก็บกวาดห้องให้เรียบร้อยไม่ได้คือคนที่มีปัญหาทางใจ’ ทำให้เรามองเห็นถึงอีกมุมหนึ่งของปัญหาบ้านรกรุงรังได้อย่างที่ไม่เคยฉุกคิดมาก่อน ตัวหนังสือเล่าผ่านเคสของคนหลากหลายรูปแบบที่คุณโทมาริได้เคยให้ความช่วยเหลือมาก่อน ไม่ว่าจะเป็น หญิงชราอายุเฉียดแปดสิบในคฤหาสน์ที่ไร้การเหลียวแลจากลูกหลาน ช่างฝีมือทำปลาไม้ที่สูญเสียภรรยาไปเพราะโรคมะเร็ง หลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้จบไม่แน่คุณอาจจะมองเห็นปัญหาที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังสิ่งของในชีวิตของคุณอย่างที่คุณอาจไม่เคยสังเกตมาก่อนเลยก็เป็นได้