เป็นคนในวงการบันเทิงอีกหนึ่งคนที่เป็นที่รักของชาวโซเชียลแบบสุดใจ เพราะเรื่องราวและแง่มุมที่สาว ‘ใบเฟิร์น-อัญชสา มงคลสมัย’ ขยันแชร์ผ่านหน้าเพจ ‘Bivoyage - ใบบันทึกเดินทาง’ และทวิตเตอร์ @ใบเฟิร์นรักสัตว์ ของเธอก็ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ประสบการณ์การท่องเที่ยวของตัวเองเท่านั้น แต่สาวยิ้มโลกสดใสคนนี้ยังมักแชร์มุมมองต่าง ๆ ที่แปลกใหม่และน่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องราวต่าง ๆ ในสังคมที่เราอาจไม่เคยคิดเห็นในแง่นี้มาก่อน
ซึ่งพอได้พูดคุยกันไป ใบเฟิร์นมีเคล็ดลับในการมองโลกด้วยสายตาที่เข้าใจและเปิดกว้างเช่นนี้ได้อย่างไร คำตอบที่ได้ก็คือ การอ่านนั่นเองที่เปิดโลกกว้างและทำให้เธอมองเห็นความเป็นไปและสามารถเชื่อมโยงสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในโลกได้อย่างเฉียบคมมากขึ้น
สำหรับใบเฟิร์นแล้ว การอ่านหนังสือทำให้เราได้มองโลกผ่านสายตาของคนอื่น ซึ่งทำให้เราทำความเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นในสังคมได้ชัดเจนขึ้น
“เราคิดว่าการอ่านเรื่องราวหรือประสบการณ์ชีวิตของคนอื่นที่ถ่ายทอดออกมาผ่านหนังสือ ช่วยทำให้เราเห็นโลกที่แตกต่างหลากหลายมากขึ้น บางทีเราอ่านประสบการณ์ของคนที่ทำงานอาชีพต่างๆ เช่น พนักงานโรงแรม คนขับแท็กซี่ หรืออาจารย์พิเศษในมหาวิทยาลัย มันก็ทำให้เราได้เห็นโลกของเขาที่เราไม่มีทางไปมีประสบการณ์แบบนั้นได้ มันทำให้เราได้เข้าไปเห็นว่า โลกของคนทำอาชีพนี้มันเป็นอย่างนี้เองเหรอ? มีคนแบบนี้ด้วยเหรอ? การอ่านหนังสือแบบนี้มันทำให้เราคอยสังเกตคนที่เราพบเจอในชีวิตประจำวัน และทำให้เรามี Empathy ต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันมากขึ้น”
แต่เหนือสิ่งอื่นใด ใบเฟิร์นได้แชร์แง่มุมเกี่ยวกับวิธีการอ่านที่ช่วยให้เธอมองเห็นแง่มุมปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นรอบตัวไปจนถึงระดับโลก นั่นก็คือการอ่านหนังสือเพื่อให้ย้อนกลับมาตั้งคำถามกับประเด็นปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในสังคม ซึ่งหากเราอ่านหนังสือแล้วย้อนดูตัวเอง เราก็จะสามารถมองเห็นประเด็นทางสังคมได้ในหนังสือทุกเล่ม ไม่เว้นแม้แต่ Harry Potter
“เฟิร์นชอบอ่าน Harry Potter มาตั้งแต่เด็ก ๆ ตอนนั้นอ่านก็แค่สนุกดี แต่พอมาอ่านตอนโต ถึงรู้ว่าอะไรหลาย ๆ อย่างใน Harry Potter มันคือการสะท้อนปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นในโลกความเป็นจริง ทุกสิ่งทุกอย่างใน Harry Potter สามารถตีความในแง่ของสังคมได้เฉียบคมมาก ๆ เรื่องที่เห็นชัดเจนเลยก็คือ ปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำและชนชั้น ซึ่งใน Harry Potter มันคือเรื่องของสายเลือดบริสุทธิ์กับมักเกิ้ล หรือที่เรียกว่า เลือดสีโคลน ถ้าอ่านแล้วลองวิเคราะห์ดูก็จะพบว่า ความเหลื่อมล้ำทางชนชั้นใน Harry Potter มันก็คือเรื่องที่มาจากอคติเรื่องชาติพันธุ์หรือสีผิวในสังคมเราเองนี่แหละ”
“การได้อ่านเรื่องราวที่ผู้เขียนถ่ายทอดออกมา มันทำให้เราได้เห็นโลกในมุมมองที่ต่างออกไปจากที่เราเคยมอง มันพาให้เราไปเห็นโลกที่แตกต่างไปจากโลกที่เราอาศัยอยู่ ได้มองเห็นปัญหาจากมุมมองที่ต่างออกไป ได้ไปเรียนรู้วัฒนธรรมของพื้นที่อื่น ๆ ในโลกที่เขามองว่าความเป็นมนุษย์ของเราเท่ากัน ที่ที่การเคารพกันในฐานะมนุษย์คนหนึ่งเป็นเรื่องธรรมดา การอ่านคือการเปิดโลกของเราจริง ๆ ถ้าเราไม่อ่าน เราก็จะไม่สามารถจินตนาการถึงโลกที่แตกต่างไปจากที่เราอยู่ได้เลย การได้ลองไปมองประเด็นสังคมจากมุมมองที่ต่างไปจากที่เราเคยมอง มันทำให้เราเชื่อมโยงสิ่งต่าง ๆ ในสังคมได้ชัดเจนขึ้น”
ก่อนจะจบบทสนทนา ใบเฟิร์นก็ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า
“สุดท้ายแล้วเราพูดไม่ได้ว่าคุณควรจะอ่านหนังสือ เพราะคุณต้องอ่านก่อน ถึงจะเข้าใจได้ว่า ทำไมคุณต้องอ่านหนังสือ ทำไมคุณถึงควรจะได้มองสังคมในมุมมองอื่นที่คุณไม่เคยมอง”