"เราคิดว่าให้ลองทำ ลองทำในสิ่งที่เราสงสัย ลองทำมันอย่างจริงจังดู ให้รู้ว่าเราอยู่กับมันได้ หรือว่าเราชอบมันจริงๆ หรือเปล่า" นี่คือคำตอบของ พลอย - พลอยไพลิน ตั้งประภาพร สาวน้อยวัย 23 ปี ที่มีรอยยิ้ม กับแววตาสดใสอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งปัจจุบันกำลังสนุกกับการทดลองทำสิ่งต่างๆ หลากหลายรูปแบบ ทั้งการเดินทางท่องเที่ยว ทำเพจ ‘พลอยเรียนจบแล้วทำไรต่อ?’ เขียนหนังสือ ‘วิชาเดินทางหลังเลิกเรียน’ ยูทูบเบอร์ ‘แชนแนล Pigkaploy’ นักแสดงละคร และภาพยนตร์ ‘Low Season สุขสันต์วันโสด’ รวมทั้งล่าสุด พลอยใช้เวลากักตัวช่วงโควิด 19 กลับมาทดลองฝึกกีต้าร์ จนเล่นเพลงเพราะๆ ให้แฟนๆ ฟังบ้างแล้ว
จากหลากหลายบทบาทที่พลอยลงมือทำ เคล็ดลับของเธอคืออะไร เธอใช้พลังแบบไหนในการลงมือทำสิ่งต่างๆ มาออกเดินทางค้นหาตัวตนฉบับนักเดินทางของพลอยในกิจกรรม TK Park เปิดตำราวิชาแนะให้แนว ตอน ชีวิตจริงต้อง JOURNEY
บทบาทนักเดินทาง…ลองออกเดินทางคนเดียว
แม้จะเป็นคนชอบเที่ยว แต่พลอยก็ไม่เคยเที่ยวคนเดียว หลังเรียนจบนิเทศศาสตร์ สาขาภาพยนตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต พลอยให้รางวัลตัวเอง ด้วยการติดสินใจออกเดินทางคนเดียว
พลอยเริ่มต้นเล่าเรื่องราวการเดินทางด้วยรอยยิ้มใสๆ “เรารอรับปริญญาแล้วว่างเป็นเดือน เลยคิดว่าอยากจะหาอะไรทำ เราเป็นคนชอบเที่ยว มีแพลนว่าอยากไปรถไฟสายทรานส์ไซบีเรีย แต่ยังไม่มีโอกาสไปสักที หรือทริปนี้จะเป็นโอกาสให้เราไปตะลุยเที่ยวคนเดียว แต่ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะไปคนเดียว จะไปกับเพื่อน แต่เพื่อนก็มีงาน มีช่องทางของตัวเอง การชวนเพื่อนไปเที่ยวเป็นเดือนอาจจะยาก ก็เลยตัดสินใจจะไปคนเดียวดู”
“ที่เราเลือกทรานส์ไซบีเรียน เพราะว่าเป็นความฝันของใครหลายคนที่ชอบเที่ยว มันเป็นเส้นทางที่ผ่านหลายประเทศ ผ่านหลายจุด หลายบรรยากาศ มีทั้งภูเขา แม่น้ำ และทะเลทราย ซึ่งตัวทรานส์ไซบีเรีย มีทางรถไฟ 3 สาย พลอยไปทางมองโกเลีย (สายทรานส์-มองโกเลีย) ที่จะไปเชื่อมกับทรานส์ไซบีเรียที่หลัง จะผ่านจีน มองโกเลีย และรัสเซีย เราใช้เวลานานมาก เหมือนครั้งหนึ่งได้พิชิตเส้นทางสายรถไฟ สายประวัติศาสตร์ที่ยาวที่สุดในโลก”
แน่นอนว่าการไปเที่ยวคนเดียว ของสาวน้อยคนหนึ่งไม่ง่ายนัก ด่านหนึ่งที่ต้องผ่าน ก็คือ ‘พ่อแม่’ ซึ่งพลอยพกความมั่นใจ ความมั่นคงต่อความรู้สึกของตัวเอง เดินเข้าไปอธิบายเหตุผลให้คุณพ่อของเธอฟัง
“เราไม่กล้าขอต่อหน้า กลัวโดนว่า ก็เลยพิมพ์ไปในไลน์ก่อน แต่ที่บ้านคิดว่าลูกคนนี้เอาอีกแล้ว ดูเป็นไปไม่ได้ เขาคิดว่าเราเพ้อเจ้อ ไม่ได้จริงจัง เราก็เลยต้องจริงจังแล้ว เดินไปหาคุณพ่อ พูดว่าเราจะไปเดือนหนึ่งนะ เราจะไปคนเดียว คุณพ่อก็ถามเหตุผล เราก็ต้องพูดด้วยความมั่นใจ หนักแน่น มีเหตุผลที่ยอมรับได้ เราบอกว่าเหมือนเป็นของขวัญเรียนจบ ได้เรียนรู้ชีวิต เราจะไม่รบกวนป่าป๊าเลย เอาตังค์ของเราเองไปเที่ยว”
หลังผ่านด่านคุณพ่อคุณแม่แล้ว พลอยใช้เวลาเตรียมตัวค่อนข้างเร็ว ช่วงเวลากว่า 20 วัน พลอยจองตั๋ว ขอวีซ่าแต่ละประเทศ และหาข้อมูลอย่างหนัก เพื่อทำการบ้านแต่ละสถานที่ที่จะไปอย่างละเอียดที่สุด ไม่ใช่แค่รู้ว่าจะไปเที่ยวที่ไหน แต่ต้องรู้ประวัติศาสตร์ ชีวิต และผู้คนที่นั่นด้วย
“เราสนุกกับการนั่งอ่านข้อมูล จำได้ว่า 2-3 วัน ไม่ทำอะไรเลย นั่งอ่านแต่ข้อมูลใน Lonely Planet เราต้องไม่พลาดสักอย่าง เราต้องรู้ข้อมูลทุกอย่างจากประเทศนั้น ว่าประเทศนั้นอากาศกี่องศา เดินทางยังไง ใช้ค่าเงินยังไง ใช้ภาษาอะไร วัฒนธรรมเป็นยังไง คือต้องรู้ให้หมดทุกอย่าง เวลาเกิดอะไรจะได้แก้ปัญหาได้มากที่สุด”
แบกความกลัวออกเดินทาง
แม้จะพกความมั่นใจเพื่อออกเดินทางมาเต็มเปี่ยม แต่ก่อนวันเดินทางไม่กี่วัน พลอยก็กลัวไม่น้อย เธอนอนร้องไห้ ในหัวเริ่มจินตนาการถึงอันตรายเมื่อต้องเดินทางคนเดียว
“ตอนที่เราจองแรกๆ เราไม่รู้สึกกลัว รู้สึกตื่นเต้นอยากไปลุย แต่วันสองวันก่อนเดินทาง ก็ร้องไห้ เพราะเรากลัว เราไม่กล้ายอมรับว่า เรากลัวการไปเที่ยวคนเดียว มันมีคืนหนึ่งที่นอนคิดขึ้นมาว่า ถ้าพาสปอร์ตหายที่มองโกเลียจะทำยังไง จะพูดภาษาอังกฤษให้เขารู้เรื่องยังไง ถ้าเรานอนบนรถไฟแล้วมีคนมาจี้ปล้นจะทำยังไง ซึ่งเราจัดการความรู้สึกนี้ไม่ได้ ก็เลยแบกความกลัวนี้ไปด้วย แม้เรากลัว แต่เราต้องกล้า อยากรู้อยากเผชิญ ว่าเราจะผ่านไปได้ไหม”
พลอยบรรยายความรู้สึก ‘กลัว’ ระหว่างเดินทางว่า เหมือนเล่นเกมผ่านด่าน เมื่อผ่านแต่ละด่านความกลัวไปได้ ก็ช่วยเติมเต็มความมั่นใจให้เธอมากขึ้น
“ทุกๆ วัน ทุกครั้งที่ไปเที่ยวก็คิดเผื่อไว้ว่ามันจะเกิดสิ่งนี้ได้ ถ้าเราทำแบบนี้ เลยหลีกเลี่ยงว่า ถ้ามันมืดแล้วจะกลับโรงแรม จะไม่ไปข้างนอก ถึงจะมีเพื่อนในโฮสเทลชวนไปกินต่อ เราจะไม่ไป คุมตัวเอง ไม่ใส่หูฟังเดินไปไหน เพราะเราต้องได้ยินทุกอย่างรอบด้าน และต้องมีสติตลอดเวลา”
สิ่งที่ค้นพบระหว่างออกเดินทาง
“มันมีสองแบบ คือสิ่งที่ข้างนอกให้กับเรา และเราให้กับตัวเอง เราได้ออกไปเห็นสิ่งที่เราไม่ได้เห็นในชีวิตประจำวัน เช่น เห็นวัฒนธรรม สถานที่ ธรรมชาติ ได้เห็นประวัติศาสตร์ ได้เข้าใจคน ทำไมรัสเซียชอบทำหน้าบึ้ง ต้องเคร่งขรึม เพราะเขามีประวัติศาสตร์มาแบบนี้ ทำให้เราเข้าใจมุมมองของโลกมากขึ้น สนุกจังเลย เหมือนกับการจองตั๋วไปประเทศหนึ่ง ได้ซื้อคอร์สที่เราไม่รู้จะได้อะไรกลับมา และที่เราชอบ คือสิ่งที่เราให้กับตัวเอง เราเข้าใจตัวเองมากขึ้น”
ก่อนออกเดินทางมีเพื่อนบอกพลอยว่า “เดินทางคนเดียวจะเข้าใจตัวเองมากขึ้นนะ” พลอยได้แต่สงสัยว่าจะเข้าใจตัวเองมากขึ้นได้ยังไง เพราะเธอก็รู้จักตัวเองอยู่แล้ว แต่การเดินทางทำให้พลอยมองเห็นตัวเองละเอียดขึ้นในอีกมุมมองหนึ่ง
“การไปคนเดียวมันมีหลายอย่าง แม้แต่เราเองไม่เข้าใจหลายๆ มุมมองเลย เช่น เราเป็นคนกล้าได้กล้าเสียเหมือนกันเนอะ กล้าที่จะลุยเหมือนกัน เราเหงาเหมือนกันเนอะ เราอยู่คนเดียวไม่ได้นานขนาดที่เราคิด เราคุยเก่งเหมือนกันเนอะ แม้ภาษาเราจะไม่ได้เรื่อง แต่คุยได้นานมากเป็นชั่วโมงเลย”
ที่สำคัญหลังออกเดินทาง สิ่งที่พลอยรู้สึกว่าได้กลับมาเต็มเปี่ยม คือ ‘ความภูมิใจ’
“รู้สึกภูมิใจในตัวเองมากขึ้น มั่นใจตัวเองมากขึ้น เราผ่านมันมาได้ เราทำได้ด้วยตัวเอง เหมือนทุกอย่างเกิดจากตัวเรา ไม่มีใครช่วย เราหาทางด้วยตัวเอง เกิดความภูมิใจว่า อะไรที่เรากลัว เราก็ทำได้ ถ้าเรากล้าทำมัน”
บทบาทเจ้าของเพจ….พลอยเรียนจบแล้วทำไรต่อ?
ปัจจุบันเพจ ‘พลอยเรียนจบแล้วทำไรต่อ?’ มีผู้ติดตามเกือบ 200,000 คน พลอยมักแชร์เรื่องราวเชิงบวก แรงบันดาลใจ การพบเจอผู้คน ประสบการณ์การท่องเที่ยว และไลฟ์สไตล์ต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ทำให้แฟนๆ ได้ใกล้ชิดกับเธอไม่น้อย หลายๆ คนบอกว่า เพจของพลอยทำให้พวกเขายิ้มตามตลอดเวลา
“เพจนี้เริ่มต้นจาก เราสับสนกับชีวิตตัวเองว่าจะเอายังไงต่อดี เลยตั้งชื่อเพจ ‘พลอยเรียนจบแล้วทำไรต่อ?’ ดูเกรียนๆ ไม่ได้คิดจริงจังว่าจะมีคนติดตาม เราทำให้เพื่อนติดตามว่า เราไปเรียนขับรถ ทำอาหาร อัพเดตไลฟ์สไตล์เราปกติ แต่ด้วยความที่เราชอบเที่ยว เลยมีเรื่องเที่ยวอยู่ในนั้น พอแชร์คลิป (39 DAYS CHINA – FRANCE 37 วัน 8 ประเทศ กับ 2 เท้าของฉัน จากจีนสู่ฝรั่งเศส ด้วยรถไฟสายทรานส์ไซบีเรีย) ก็มีคนติดตาม มีคนสนใจ กลายเป็นว่าคนก็แชร์ต่อ”
คลิปเพียงคลิปเดียวที่เผยแพร่ในเฟซบุ๊ก มีผู้ชมมากกว่า 1.7 ล้านวิว 37,000 แชร์ และเกือบ 9,000 คอมเม้นท์ ส่งผลให้พลอยและเพจ ‘พลอยเรียนจบแล้วทำไรต่อ?’ มีคนติดตามมากขึ้นอย่างรวดเร็ว และมีคนส่งข้อความมาขอบคุณเธอมากมายว่า การเดินทางของเธอ ได้สร้างพลังและแรงบันดาลใจให้พวกเขากล้าออกเดินทาง
บทบาทนักเขียน….วิชาเดินทางหลังเลิกเรียน
หลังจากไวรัลคลิป 39 DAYS CHINA – FRANCE หลายๆ คนก็จับตามองเธอ ในฐานะนักเล่าเรื่องที่มีความสามารถ หนึ่งในนั้นคือ หนุงหนิง-ศิษฏา ดาราวลี บรรณาธิการบริหารสำนักพิมพ์บัน (BUNBOOKS) ที่ส่งข้อความ มาชักชวนให้พลอยเขียนหนังสือ ทำให้จากคำถาม ‘ไม่รู้ว่าตัวเองอยากทำอะไร’ จากสภาวะเคว้งหลังเรียนจบ เกิดเป็นเรื่องราวของหนังสือ ‘วิชาเดินทางหลังเลิกเรียน’ ที่พลอยได้สร้างสัมพันธ์กับบุคคลต่างๆ มากมาย หลายสัญชาติ เป็นประสบการณ์ชีวิต ที่เธอหาไม่ได้ หากไม่ได้ออกเดินทาง
“ตอนไปเที่ยว เรามีสมุดเล่มหนึ่งเป็นไดอารี่ เราเจออะไร เราก็จดไว้ เราคิดว่าวันหนึ่ง เราโตขึ้น อยากกลับมาอ่านมันอีกรอบหนึ่ง ว่าเราเป็นยังไงนะตอนนั้น เราเลยเอาส่วนนี้มาเขียนเป็นหนังสือ ระหว่างที่เราเขียน เหมือนเราได้กลับไปเที่ยวที่เดิมอีกครั้ง เราต้องบรรยายสิ่งที่เห็นในหัวให้เป็นตัวอักษร ได้ค่อยๆ เรียบเรียงความรู้สึกใหม่ เราเจออะไร เรารู้สึกยังไง คนที่เจอกัน ได้คุยกัน ตอนคุยเรารู้สึกยังไง แม้กระทั่งความหนาวของอากาศที่มองโกเลีย มันหนาวขนาดไหน เราต้องพยายามนึกถึงความหนาวนั้น และทำให้เราเข้าใจมากขึ้น ว่าคนเป็นนักเขียน เขาเก่งเหมือนกันเนอะ เราได้เข้าใจมุมมองอีกอาชีพที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน หลังจากนั้นการอ่านหนังสือไม่ได้แค่อ่านเอาสนุกแล้ว แต่ยังได้เห็นมุมมองของนักเขียนมากขึ้นว่า เขาใช้ภาษาแบบนี้ อธิบายได้เหมือนกัน”
บทบาทนักแสดง….ละครและภาพยนตร์
ด้านการแสดง ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของพลอย คือ ‘Low Season สุขสันต์วันโสด’ พลอยรับบทเป็น ‘หลิน’ หญิงสาวที่เพิ่งอกหัก มาพร้อมบาดแผลในใจจากการที่เธอเป็นคนเห็นผี โดยเรื่องนี้เธอได้แสดงนำคู่กับ มาริโอ้ เมาเร่อ ซึ่งพลอยเล่นเรื่องนี้ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ได้รับคำชมมากมายในด้านทักษะการแสดง
“พลอยทำงานนักแสดงตั้งแต่อายุ 15 ปี เหมือนเราต้องวางแผนตารางเวลาให้ทำงานไปด้วย เรียนไปด้วยได้ ซึ่งช่วยเรื่องความรับผิดชอบมากขึ้น เรารู้สึกว่า เสน่ห์ของการแสดง คือ การได้เป็นตัวละครตัวหนึ่ง ที่ชีวิตนี้เราอาจไม่เข้าใจ อย่างที่เราเล่นล่าสุด เราเล่นเป็นคนเห็นผี ด้วยความที่เราไม่เชื่อเรื่องผีมาก ก็คิดว่าทำไมคนเห็นผีต้องมีปมด้วยนะ พอเราทำความเข้าใจ ไปคุยกับคนเห็นผีจริงๆ ทำให้เห็นมุมมองของคนมากขึ้น แล้วการเป็นนักแสดงทำให้เราได้เป็นหลายๆ อาชีพ ที่เราไม่คิดว่าชีวิตนี้จะได้เป็น เป็นพยาบาล หมอ คนรวย เป็นเสน่ห์ที่ทำให้ได้เป็นคนในบทบาทนั้นๆ”
บทบาทยูทูบเบอร์… Pigkaploy
ถึงจะเป็นนักแสดงที่ต้องอยู่หน้ากล้องบ่อยๆ แต่พลอยบอกว่า เธอเป็นคนเขินกล้อง ถ้าต้องถือกล้องแล้วพูดคนเดียว แต่เมื่อมีแฟนๆ คอยสนับสนุน และส่งข้อความมาขอบคุณ พร้อมบอกให้เธอทำคลิปวิดีโออีก ทำให้พลอยตัดสินใจโฟกัสตัวเองในบทบาทยูทูบเบอร์ แชนเนล Pigkaploy อย่างจริงจัง
“หลังมีคนมาทักบอกว่า พี่เป็นแรงบันดาลใจให้หนูนะ อยากติดตามพี่ ทำให้เรารู้สึกว่าการเที่ยวของเรา ไม่ใช่แค่ตัวเรา แต่คนอื่นก็ได้กลับไปด้วย เรารู้สึกดีจังเลย ที่การเที่ยวของเรามีประโยชน์ ดังนั้นเวลาไปเที่ยว เราจะเก็บโมเมนต์มาแชร์ประสบการณ์ ให้คนที่สับสน ได้เกิดแรงบันดาลใจ”
สิ่งที่ช่วยพลักดันให้เดินไปข้างหน้า คือ ‘ความรู้สึกท้าทาย’
เห็นได้ว่าพลอยทดลองทำบทบาทของตัวเองในหลายหน้าที่ได้อย่างดีมาก จนไม่น่าเชื่อว่าครั้งหนึ่งสมัยเด็กๆ เธอจะเป็นคนเก็บตัวมาก่อน
“ตอนเด็กๆ เราค่อนข้างไม่เอาอะไรเลย เล่นแต่เกม อ่านแต่การ์ตูน อยู่คนเดียวตลอดเวลา แต่วันหนึ่งไปดูหนังเรื่องหนึ่ง แล้วเปิดโลกเรามาก เราเสียเวลากับการเล่นเกมไปเยอะ เลยอยากใช้ชีวิตให้คุ้มที่สุด เท่าที่ทำมันได้ อยากลองอะไรหลายอย่าง รู้สึกเป็นสิ่งท้าทาย อยากเที่ยวหลายที่ อยากเห็นอะไรที่ไม่เคยเจอ เลยสนุกกับการที่ได้ลองทำอะไรหลายอย่าง”
“ไม่รู้ว่าอันนี้ดีหรือไม่ดีนะ แต่เราชอบคิดว่า ทุกๆ วันต้องดีขึ้นกว่าเดิม แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ ก็ตาม ถึงเราไม่ได้ทำอะไรเลย แต่มันต้องมีอะไรพัฒนาขึ้นมากกว่าเมื่อวาน เราชอบเอาหนังสือมาอ่าน หรือดูหนังก็ได้ ให้มันมีสารเข้ามาในตัวเรา ให้พัฒนาไปเรื่อยๆ ไม่แน่ใจว่า ที่เราคิดแบบนี้ กดดันตัวเองหรือเปล่า แต่เป็นสิ่งที่ทำให้เราอยากเดินไปข้างหน้าในทุกๆ วัน แม้ว่าจะไปช้าๆ ก็ตาม แต่มันต้องดีกว่าเมื่อวาน”
โลกออนไลน์เปิดโอกาสให้ค้นหาความถนัดของตัวเอง
สำหรับใครที่สงสัยว่า จะค้นหาความถนัดของตัวเองได้ยังไง พลอยแนะนำว่า ให้ไปทดลองทำทุกสิ่งที่ตนเองสงสัย พาตัวเองเข้าไปอยู่กับสิ่งนั้น จะได้รู้ตัวว่าชอบหรือไม่ชอบ ถ้าไม่ลองทำ เราก็ได้แต่สงสัยไปเรื่อยๆ
“ถ้าพลอยสนใจอะไร จะพาตัวเองไปอยู่สังคมนั้น เช่น เราสนใจ ทำหนังหรือถ่ายรูป ก็ตามเพื่อนที่ชอบถ่ายรูปไปด้วย การพาตัวเองไปอยู่สังคมนั้น ทำให้เราได้เห็น ได้ทำด้วย”
“สิ่งง่ายๆ คือโลกออนไลน์ มีคอร์สมากมายให้เราได้เรียนรู้ มีสื่อออนไลน์ มียูทูบที่สอน มันเป็นโอกาสที่เราจะได้ลองทำอะไรใหม่ๆ อย่างช่วงที่พลอยกักตัว (จากโรคระบาดโควิด - 19) พลอยก็ตันเหมือนกัน ทำอาหารแล้ว จัดบ้านแล้ว ก็หมดเรื่องที่จะทำ ท้ายที่สุดก็หาจนเจอว่ากิจกรรมอะไรที่ทำได้ พลอยก็ฝึกเล่นกีต้าร์ เราก็เล่นมันทั้งวันเลย แล้วเพื่อนถามว่า แกเพิ่งกลับมาฝึกจริงเหรอ ทำไมเล่นเป็นเพลงขนาดนี้”
พลอยแนะนำปิดท้ายว่า คนรุ่นใหม่ในปัจจุบันมักอยากประสบความสำเร็จเร็วๆ ทำให้ความคิดนี้อาจกดดันตัวเองได้ ตัวเธอก็เคยสงสัย จึงชอบไปถามคนอื่นว่า “การประสบความสำเร็จของพี่คืออะไร” จนได้คำตอบว่า ความสำเร็จไม่มีอะไรมาชี้วัด ไม่ว่าจะเป็นเงินทองหรือชื่อเสียง สำหรับเธอแล้ว การประสบความสำเร็จ คือการมีความสุขในทุกๆ วันต่างหาก
“ถ้าเราตื่นมา แล้วมีความสุขกับทุกวัน สิ่งนั้นก็คือการประสบความสำเร็จแล้ว เอนจอยกับชีวิตทุกวัน”