วอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา เป็นหนึ่งในเมืองที่มีแหล่งเรียนรู้เพียบพร้อมมากที่สุดในโลก มีห้องสมุดประชาชนถึง 25 แห่ง โรงเรียนรัฐบาลและเอกชนนับร้อยแห่ง พิพิธภัณฑ์สมิธโซเนียนที่มีชื่อเสียงระดับโลกและเครือข่ายพิพิธภัณฑ์ที่ให้บริการฟรีอีก 19 แห่ง หอสมุดรัฐสภาซึ่งเป็นสถาบันด้านวัฒนธรรมที่เก่าแก่ที่สุดของสหรัฐอเมริกา หอจดหมายเหตุแห่งชาติ รวมทั้งโบสถ์นับร้อยแห่งซึ่งหยั่งรากลึกอยู่ในวัฒนธรรมของชุมชน ทรัพยากรและโอกาสการเรียนรู้ทั้งปวงมีอยู่เหลือเฟือ ทว่ากลับยังมีช่องว่างในการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างทรัพยากรกับเยาวชนซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของแหล่งเรียนรู้เหล่านั้น
เยาวชนโอดครวญถึงความจริงที่ว่า หาได้มีกลไกที่ช่วยให้พวกเขาสามารถค้นหาสิ่งที่สนใจด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการหางาน โอกาสในการทำงานจิตอาสา ทุนการศึกษา หรือกิจกรรมสนุกๆ ที่สามารถทำร่วมกับเพื่อน มันต้องขึ้นอยู่กับข้อมูลที่ผู้ปกครอง ครู หรือผู้ใหญ่ นำมาบอกเล่า ซึ่งหลายครั้งก็สายเกินไปที่จะเข้าร่วมเสียแล้ว
มีงานวิจัยที่ศึกษาพฤติกรรมการค้นหาสารสนเทศของเยาวชนเมืองระบุว่า วัยรุ่นมักจะเชื่อบุคคลที่พวกเขาไว้ใจ ดังนั้นสิ่งสำคัญจึงอยู่ที่การสร้างความสัมพันธ์และเครือข่ายทางสังคม ส่วนงานวิจัยอีกฉบับหนึ่งซึ่งจัดทำตั้งแต่ปี 2005 ระบุว่า มีเยาวชนเพียง 57% เท่านั้นที่มีความเกี่ยวข้องกับการสร้างสรรค์สื่อ (การโพสต์รูปหรือวิดีโอออนไลน์ หรือแสดงความคิดเห็นในพื้นที่ออนไลน์) และยิ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเป็นส่วนหนึ่งของสื่อกระแสหลัก
แหล่งเรียนรู้โดยเฉพาะอย่างยิ่งห้องสมุดประชาชนควรให้ความสำคัญกับการสนับสนุนให้เยาวชนได้เข้าถึงอุปกรณ์และสื่อดิจิทัล โดยออกแบบกระบวนการให้นักเรียนได้ใช้สิ่งอำนวยความสะดวกดังกล่าวเพื่อทำงานและเรียนรู้ร่วมกัน และเป็นช่องทางในการสร้างความสัมพันธ์กับชุมชนผู้ใหญ่ สิ่งเหล่านี้จะช่วยปูทางให้เยาวชนเกิดทักษะการเรียนรู้ที่จำเป็นสำหรับศตวรรษที่ 21 และสามารถมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่กับวัฒนธรรมสื่อสมัยใหม่ (new media)
ในทัศนะของห้องสมุดประชาชน ดี.ซี. ความรู้คือผลรวมของสิ่งที่มนุษย์เรารู้อยู่แล้ว กระบวนการพัฒนาความรู้เกิดจากการสนทนา การฟัง และการอ่าน เกิดเป็นความเข้าใจที่กลั่นกรองด้วยประสบการณ์ชีวิตอีกชั้นหนึ่งภายใต้บริบทและปรากฏการณ์ทางสังคม
ตามนิยามนี้ เยาวชนจึงไม่ใช่ผู้ไร้ความรู้ พวกเขาต่างก็มีประสบการณ์และการรับรู้ผ่านประสาทสัมผัสไม่ต่างจากผู้ใหญ่ เยาวชนไม่ได้มีความคิดและความเห็นที่บอดใบ้ เพราะพัฒนาการในการเติบโตทำให้เด็กๆ คุ้นเคยกับ “การเล่นกับความคิด” และพยายามทำให้ความคิดเหล่านั้นจับต้องได้ จนเกิดเป็นตัวตนของเขาขึ้นมา
สื่อเป็นประตูบานสำคัญสำหรับการพัฒนาความรู้ของมนุษย์ มันไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับการตระหนักรู้ การกลั่นกรอง การเรียบเรียง และการแบ่งปันความรู้ระหว่างเยาวชนกับชุมชน แต่ยังเป็นการพลิกอำนาจในการสื่อสารและนำพาเสียงสะท้อนจากชายขอบไปยังส่วนกลาง
กระบวนการขับเคลื่อน เยาวชน 202
ห้องสมุด ดี.ซี. ได้สร้างสรรค์โครงการ เยาวชน 202 (Youth202) ขึ้น ในช่วงฤดูร้อนของปี 2010 โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากกลุ่มเยาวชนที่เป็นลูกจ้างชั่วคราวของห้องสมุด ซึ่งสะท้อนความเห็นว่าพวกเขาน่าจะมีโอกาสได้ออกไปค้นหาสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในเมืองด้วยตัวเอง เช่นเดียวกับที่ผู้ใหญ่สามารถเลือกอ่านหนังสือพิมพ์ หมุนหาช่องวิทยุ หรือเข้าเว็บไซต์ตามความต้องการและความสนใจ เยาวชน 202 จึงเกิดขึ้นเพื่อเชื่อมโยงแหล่งทรัพยากรที่มีอยู่มหาศาล เพื่อให้นำไปใช้ประโยชน์ในวิถีที่พวกเขาต้องการ โดยใช้เครื่องมือ แพลตฟอร์ม และเทคโนโลยีที่พวกเขาใช้กันอยู่แล้ว
เยาวชน 202 มีกลุ่มเป้าหมายที่เยาวชนอายุระหว่าง 12-19 ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้มาจากครอบครัวที่มีรายได้ต่ำ กิจกรรมจัดขึ้นทุก 2 สัปดาห์หลังเลิกเรียน เพื่อให้เด็กๆ ได้ศึกษาค้นคว้า เขียน และแบ่งปันสารสนเทศ ผ่านสื่อ Twitter และรายการวิทยุออนไลน์ มีการจับคู่เยาวชนกับผู้ใหญ่ที่สามารถให้คำแนะนำเรื่องที่พวกเขาต้องการ เช่น องค์กร Radio Rootz ซึ่งชำนาญเรื่องการผลิตรายการวิทยุสำหรับเยาวชน ได้เข้ามาช่วยอบรมด้านการค้นคว้าข้อมูล การวิเคราะห์สารสนเทศ การผลิตสื่อเสียงดิจิทัล การสัมภาษณ์ การเขียนเนื้อหาออนไลน์ และการตลาดออนไลน์
ใน Twitter เยาวชนจะได้พบกับสารสนเทศเกี่ยวกับการหางาน ทุนการศึกษา กิจกรรมสำหรับเยาวชน บทความเกี่ยวกับชีวิตวัยรุ่น แหล่งความรู้ท้องถิ่นด้านสุขภาพ และสื่อด้านบวกสำหรับคนรุ่นใหม่ ส่วนในเว็บไซต์ Youth202.org เยาวชนสามารถสืบค้นปฏิทินกิจกรรมซึ่งใช้โค้ดสีในการแบ่งประเภทเนื้อหา (ดนตรี การศึกษา กีฬา ภาพยนตร์ ฯลฯ) โอกาสในการทำงานและการศึกษาต่อ ลิงก์ออนไลน์ที่เป็นประโยชน์ในการทำการบ้านและฐานข้อมูลการวิจัยของห้องสมุด บทปริทัศน์หนังสือ เพลง ภาพยนตร์ และเกม คอลัมน์ให้คำปรึกษาที่เขียนโดยเยาวชน เป็นต้น
ทุกอย่างที่ปรากฏในเว็บไซต์ปราศจากการแก้ไขหรือการควบคุมของผู้ใหญ่ หมายความว่าการแบ่งปันความรู้และสารสนเทศนั้นเปี่ยมด้วยประชาธิปไตยและมีศักยภาพมากพอที่จะสะท้อนเสียงส่วนใหญ่ของเยาวชน ส่วนการสื่อสารด้วย Twitter ที่จำกัดความยาวข้อความไม่เกิน 140 ตัวอักษร เยาวชนต้องรู้จักระมัดระวังการสื่อความที่ไม่ครบถ้วนหรืออาจนำไปสู่ความเข้าใจผิด ซึ่งอาจการแก้ไขโดยการแนบลิงก์ ส่วนการ retweet ซึ่งเป็นการแชร์ต่อข้อมูลต่อก็ต้องทำด้วยวิจารณญาณ คำนึงถึงความน่าเชื่อถือเพียงพอและเกิดประโยชน์ต่อผู้อื่น ทางด้านการสร้างสรรค์รายการวิทยุ มีขั้นตอนครอบคลุมทั้งด้านการเลือกหัวข้อ การตั้งคำถามที่ตรงประเด็น การค้นคว้าข้อมูล การบันทึกเสียง การเขียนสคริปต์ และการตัดต่อไฟล์เสียงดิจิทัล
ยกระดับกิจกรรมห้องสมุด สู่กระบวนการเรียนรู้แบบ constructivism
เยาวชน 202 ใช้แนวคิดทางการศึกษาแบบผู้เรียนเป็นศูนย์กลางและเน้นทักษะการคิดเชิงวิพากษ์ ตามแนวทางนี้ เยาวชนเรียนรู้โดยคำถามที่พวกเขาตั้งขึ้นและประสบการณ์ชีวิตของตนเอง ซึ่งก่อรูปขึ้นภายใต้บริบทของสังคม วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ และการนำเสนอสื่อก็อยู่ใต้เงื่อนไขและประสบการณ์เหล่านั้นเช่นกัน
เมื่อเริ่มต้น เยาวชนจะได้เข้าร่วมระดมสมองเพื่อจำแนกปัญหาต่างๆ ที่สนใจ ซึ่งอาจเป็นเรื่องเบาๆ เช่น การทำนายดวงชะตา รีวิวดนตรี และการให้คำปรึกษา หรืออาจเป็นหัวข้อหนักๆ เช่น การเมือง และเหตุการณ์ที่กำลังอยู่ในกระแสความสนใจของสังคม ไอเดียทั้งหมดจะถูกนำไปไว้บนกระดาน กระบวนกร (facilitator) จะช่วยขีดฆ่าหัวข้อที่กว้างเกินไป เป็นนามธรรมเกินไป หรือดูน่าเบื่อเกินไป เมื่อนั้นหัวข้อก็จะแคบขึ้น เยาวชนแต่ละคนจะเลือกหัวข้อที่พวกเขาชื่นชอบที่สุด บางครั้งไอเดียที่เพิ่งถูกคัดออกไปก็ถูกเลือกให้กลับเข้ามาอีก หากว่าพวกเขาสามารถตัดสินหรือให้ความเห็นได้ว่าจะทำให้มันดีขึ้นหรือแตกต่างจากเดิมได้อย่างไร
เมื่อได้หัวข้อแล้ว เยาวชนจะวาดแผนภาพความคิด ระบุสิ่งที่พวกเขารู้เกี่ยวกับหัวข้อนั้น สิ่งที่ไม่รู้เกี่ยวกับหัวข้อนั้น และความเชื่อมโยงกันระหว่างแง่มุมต่างๆ กระบวนการนี้ช่วยให้เยาวชนมุ่งประเด็นไปยังจุดที่ต้องให้ความสำคัญจริงๆ โดยมีกระบวนกรช่วยตั้งคำถามให้ขบคิดเพิ่มขึ้น จากนั้นพวกเขาก็จะค้นคว้าหาคำตอบ ทั้งจากหนังสือ เว็บไซต์ และพูดคุยกับคนในชุมชน
ยกตัวอย่างกรณีของซีซี วัยรุ่นอายุ 15 ปี เธอเลือกทำบทวิทยุชิ้นแรกเรื่องพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว และต้องการรู้ว่าชีวิตของเด็กในครอบครัวที่มีพ่อแม่ไม่สมบูรณ์เป็นอย่างไร มีจุดร่วมบางอย่างที่เหมือนกันหรือไม่ แตกต่างกันไหมระหว่างครอบครัวที่มีพ่อเลี้ยงเดี่ยวกับแม่เลี้ยงเดี่ยว และจริงหรือไม่ที่พวกเขาเติบโตขึ้นอย่างมีปมด้อยหรือไม่เท่าเทียมกับคนอื่นๆ ซีซีเต็มไปด้วยแรงจูงใจที่จะหาคำตอบเพราะเธอเองก็ไม่ได้อยู่กับพ่อ เธอตั้งต้นว่า จำเป็นต้องมีข้อมูลสถิติเกี่ยวกับพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว ดังนั้นบรรณารักษ์จึงแนะนำเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง เธอแจกแจงกลุ่มคนที่ต้องการสัมภาษณ์และตั้งคำถามให้กับแต่ละคน ทั้งพ่อเลี้ยงเดี่ยว แม่เลี้ยงเดี่ยว เด็กที่เติบโตจากครอบครั้วทั้ง 2 แบบ และนักจิตวิทยา ฯลฯ
เยาวชน 202 กับระบบการจัดการความรู้ชุมชน
การจัดการความรู้ชุมชน คือกระบวนการคิดไตร่ตรองอย่างเป็นระบบเพื่อค้นหาความรู้ที่แฝงอยู่ในชุมชน วิธีการทำให้ความรู้เหล่านั้นไปถึงผู้ที่ต้องการมันอย่างถูกที่ถูกเวลา และการสร้างความตระหนักให้สมาชิกในชุมชนเข้าถึงและใช้ความรู้อย่างมีประสิทธิภาพ
ชุมชน Twitter ของ เยาวชน 202 กว้างขวางและมีขอบข่ายสารสนเทศที่เหมือนไม่มีจุดสิ้นสุด การเข้าถึงและแบ่งปันความรู้สามารถทำได้ด้วยปลายนิ้ว และพร้อมที่จะล้าสมัยในทันทีทันใด สารสนเทศจำนวนมากดูไร้ประโยชน์ในมุมของการจัดการความรู้ แต่บางสารสนเทศก็มีค่าประดุจขุมทรัพย์ นักจัดการความรู้ของห้องสมุดจึงต้องทำงานแข่งกับเวลา ก่อนที่มันจะถูกกลบฝังด้วยสารสนเทศที่หลั่งไหลเข้ามาบนหน้า Twitter ในอีกไม่กี่ชั่วโมงถัดมา ความสำเร็จของการจัดการความรู้ในการสื่อสารแบบอิเล็กทรอนิกส์จึงขึ้นอยู่กับการวางกลไกการประสานงานที่เปี่ยมประสิทธิภาพ และการกระตุ้นให้สมาชิกมีส่วนร่วมอย่างเอาจริงเอาจังในการแลกเปลี่ยนความรู้
ด้านเว็บไซต์ Youth202.org เริ่มเปิดตัวในปี 2011 เยาวชนมีส่วนร่วมในการออกแบบโลโก้ ระบุประเภทสารสนเทศที่ต้องการเห็น จัดหมวดหมู่ข้อมูลในเว็บไซต์ พวกเขารู้จักหาเนื้อหามาโพสต์และทำแท็กเพื่ออำนวยความสะดวกในการค้นหาเนื้อหาที่ใกล้เคียงกัน
ส่วนรายการวิทยุออนไลน์ของ เยาวชน 202 มีบทบาทในการจัดการความรู้ชุมชนด้วยการส่งเสริมให้เยาวชนได้ค้นหาและสร้างความรู้ใหม่ๆ รวมทั้งแบ่งปันให้กับผู้อื่น เมื่อพอดคาสต์และบล็อกถูกโพสต์ออกไป เยาวชนที่ได้รับฟังและอ่านก็สามารถแสดงความเห็นต่อเรื่องราวเหล่านั้น เกิดเป็นกระบวนการสนทนาและสิ่งแวดล้อมการเรียนรู้แบบเปิดกว้าง ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เยาวชนจะก้าวข้ามความความรู้สึกไม่เชื่อมั่นในการสื่อสารของตนไปสู่สาธารณะ เช่น เลส เด็กหนุ่มผิวสีวัย 17 ปี ซึ่งศึกษาเรื่องการใช้ภาษาแสลงของชุมชน บทวิทยุชิ้นแรกของเขาแข็งทื่อ เกร็ง ดูเป็นทางการ และเหมือนเขาสูญเสียความเป็นตัวของตัวเองไปโดยสิ้นเชิง ผู้เชี่ยวชาญได้อ่านและตั้งคำถามว่า เลสตั้งใจจะเขียนบทวิทยุนี้เพื่อสื่อสารกับใคร เขาตอบว่าอยากให้เพื่อนๆ วัยรุ่นด้วยกันอ่านและฟัง ถึงจุดนี้เขาจึงเริ่มเข้าใจว่า งานของตนบรรจงสื่อสารเพื่อให้ผู้ใหญ่พอใจมากเกินไป แล้วในที่สุดเลสก็ได้บทวิทยุที่ใช้ภาษาอย่างเป็นธรรมชาติและสะท้อนถึงตัวตนของเขาได้มากที่สุด
เยาวชน 202 เป็นโครงการที่ห้องสมุดประชาชนได้จัดหาบริการใหม่ ซึ่งตรงกับความต้องการสารสนเทศที่จำเป็นในบริบทสังคมปัจจุบัน โครงการนี้ได้ยึดเอาเยาวชนเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ มิได้ใช้ความคิดความเชื่อของผู้ใหญ่มาตัดสินว่าเด็กควรจะเรียนรู้อะไรและอย่างไร ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นโครงการที่เสริมพลังคนรุ่นใหม่ด้านความเป็นพลเมือง ทำให้เห็นว่าเยาวชนคือผู้ที่มีศักยภาพ รู้จักแสวงหาสารสนเทศอย่างกระตือรือร้น มิใช่รอเป็นผู้รับและเชื่อตามผู้ใหญ่อีกต่อไป อีกทั้งยังสามารถแบ่งปันสารสนเทศกับชุมชนและขยายขอบข่ายความรู้ออกไปอย่างไม่มีขีดจำกัด
รวบรวม แปล และเก็บความโดย นางทัศนีย์ แซ่ลิ้ม ฝ่ายวิชาการ สำนักงานอุทยานการเรียนรู้, มีนาคม 2560
แหล่งข้อมูล
แหล่งภาพ