อึน ยอง ยี เป็นสถาปนิกชาวตะวันออกที่ได้ฝากชื่อเสียงไว้ในงานออกแบบห้องสมุดที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เขาเกิดที่เกาหลีใต้แต่เติบโตในเยอรมนี หลังจากก่อตั้งบริษัทออกแบบชื่อ Yi Architects ในเมืองโคโลญ เขาตัดสินใจไปเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยฮันยางถึง 10 ปี ก่อนที่จะกลับไปปักหลักทำงานอยู่ในเยอรมนีอีกครั้งหนึ่ง
ห้องสมุดเมืองชตุทท์การ์ท
Stuttgart Library, เยอรมนี
การพัฒนาเมืองขนาดใหญ่ในโลกตะวันตกมักจะวางแนวทางให้ห้องสมุดเป็นไอคอนสำคัญ ที่มีบทบาทเป็นมันสมองขับเคลื่อนเมืองให้เจริญก้าวหน้า เช่นเดียวกับเมืองชตุทท์การ์ทซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีของเยอรมนี บริษัทของ อึน ยอง ยี ชนะการประกวดออกแบบห้องสมุดแห่งใหม่ซึ่งจัดขึ้นโดยองค์กรส่วนท้องถิ่น ใช้เวลาก่อสร้างยาวนานถึง 12 ปี ด้วยงบประมาณกว่า 79 ล้านยูโร จนกระทั่งเสร็จสิ้นและเปิดให้บริการในปี 2011
ห้องสมุดเมืองชตุทท์การ์ทมีรูปทรงแบบลูกเต๋ากว้างด้านละ 45 เมตร มีช่องเหมือนประตูจำนวน 80 ช่อง ห้องสมุดวางแนวตรงกับทิศทั้งสี่ ส่วนบนสุดของแต่ละด้านจารึกคำว่า “ห้องสมุด” เป็นภาษาต่างๆ โดยสามด้านเป็นอักษรภาษาเยอรมัน อังกฤษ และอารบิก สื่อถึงวัฒนธรรมหลักของภูมิภาคนี้ ส่วนอีกด้านจารึกเป็นอักษรฮันกึลเพื่อเป็นตัวแทนของโลกเอเชีย ด้วยเหตุที่ อึน ยอง ยี ต้องการประกาศเกียรติภูมิแก่ชาวเกาหลี จึงจงใจไม่เลือกใช้อักษรจีนหรือญี่ปุ่น
หากไม่นับรวมตัวอักษรดังกล่าว ทุกกระเบียดนิ้วของห้องสมุดเมืองชตุทท์การ์ทล้วนแสดงออกถึงการเชิดชูศิลปะแบบยุโรปในสไตล์มินิมอล ห้องสมุดมีสีขาวทั้งด้านนอกและด้านใน ยีอธิบายว่ามันเป็นสีของ “หนังสือ” และ “คน” เขาเลี่ยงที่จะประดับตกแต่งห้องสมุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะตั้งใจจะให้ห้องสมุดดูคล้ายโมเดลปูนปลาสเตอร์ กล่าวกันว่าเมื่อครั้งที่ห้องสมุดเพิ่งสร้างเสร็จชาวเมืองชตุทท์การ์ทไม่ค่อยรู้สึกถูกตาต้องใจมากนัก เพราะมันดูเหมือนก้อนสี่เหลี่ยมขาวๆ ท่ามกลางบรรยากาศอึมครึมของเมืองที่มักถูกปกคลุมด้วยหมอก บ้างก็เสียดสีว่าดูเหมือนกับ “คุกหนังสือ” แต่ต่อมาพวกเขาก็เริ่มเปลี่ยนความคิด เพราะในยามเช้าที่ท้องฟ้าเปิด ตึกสีขาวได้หยอกล้อกับสีสันของดวงอาทิตย์ส่องเป็นประกายน่าชม ส่วนในเวลากลางคืนมันก็ได้กลายเป็นลูกเต๋าเรืองแสงสีฟ้าระยิบระยับ
ห้องสมุดมีพื้นที่ใช้งานถึง 11,500 ตารางเมตร อาคารแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักๆ ส่วนแรกเป็น “หัวใจ” ใช้พื้นที่ตั้งแต่ชั้น 1 ถึงชั้น 4 สถาปนิกจงใจออกแบบให้โถงที่ใหญ่โตนี้ว่างเปล่า เพื่อให้ผู้ที่เดินเข้ามาได้ปลดปล่อยตัวเองจากโลกที่ยุ่งเหยิงภายนอก ด้านบนติดตั้งระบบไฟซึ่งสามารถใช้สำหรับจัดกิจกรรมตามโอกาสต่างๆ พื้นที่นี้ออกแบบโดยการตีความถึงวิหารแพนธีออนของโรมันด้วยแนวคิดแบบสมัยใหม่
จากชั้น 5 จนถึงชั้น 9 เป็นที่นั่งอ่านหนังสือทรงพีระมิดหัวกลับ โจทย์ที่นักออกแบบได้รับก็คือการทำให้ห้องสมุดไม่ใช่แค่เพียงสถานที่อ่านหนังสือ แต่เป็นสถานที่สำหรับไขว่คว้าหาความรู้และนำพาให้ผู้คนมารวมตัวกัน ยีจึงเกิดไอเดียที่จะสร้างพื้นที่ที่ดูคล้าย “เมือง” ไว้ในห้องสมุด ที่นี่มีทรัพยากรทั้งหนังสือและสื่ออื่นๆ กว่า 5 แสนรายการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวรรณกรรมชั้นเลิศซึ่งมีมากกว่า 25 ภาษา เพื่อรองรับผู้ใช้บริการซึ่งเป็นแรงงานต่างเชื้อชาติหรือผู้อพยพ
ห้องสมุดยังมีห้องแกลลอรี่ซึ่งอยู่รายรอบโถงหัวใจ มีห้องสมุดดนตรีอยู่บริเวณชั้น 1 ซึ่งก่อนหน้านี้เคยตั้งอยู่ในอาคารหลังอื่น มีห้องสมุดเด็กสีสันสดใสขนาด 900 ตารางเมตรให้บริการทรัพยากรกว่า 6 หมื่นรายการทั้งยังมีเตียงและเครื่องนอนสำหรับเด็กอย่างครบครัน มีห้องประชุมซึ่งจุได้ประมาณ 300 คนและห้องขนาดเล็กสำหรับจัดกิจกรรมหรือเรียนเป็นกลุ่ม
แม้ว่าห้องสมุดเมืองชตุทท์การ์ทจะมีจุดยืนที่ชัดเจนถึงความศรัทธาที่มีต่อหนังสือกระดาษ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะปฏิเสธเทคโนโลยีดิจิทัล ในทางตรงกันข้ามห้องสมุดได้รับการออกแบบไว้เป็นอย่างดีเพื่อที่จะรับมือกับความต้องการของผู้ใช้บริการที่เปลี่ยนไป ล็อบบี้บริเวณทางเข้าห้องสมุดเป็นที่ตั้งของจอสัมผัสขนาดใหญ่และมีคอมพิวเตอร์ให้บริการจำนวน 60 เครื่อง ส่วนผู้ที่ต้องการนั่งทำงานในห้องสมุดสามารถเดินตัวเปล่าเข้ามา แล้วขอยืมคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คที่มีให้บริการนับร้อยเครื่อง
รวบรวม แปล และเก็บความโดย นางทัศนีย์ แซ่ลิ้ม ฝ่ายวิชาการ สำนักงานอุทยานการเรียนรู้, กันยายน 2559
แหล่งข้อมูล
Korean Architect Builds Prominent Library in Germany จาก http://english.chosun.com/site/data/html_dir/2012/02/06/2012020600477.html
yi architects: new stuttgart library จาก http://www.designboom.com/architecture/yi-architects-new-stuttgart-library/