5 กลยุทธ์เปลี่ยนตัวเองเป็นคนสร้างสรรค์กว่าเดิม
‘ความคิดสร้างสรรค์’ ไม่ได้เป็นแค่เรื่องของวงการโฆษณาหรือการออกแบบอีกต่อไป ปัจจุบันมีความพยายามมากมายในการนำความคิดสร้างสรรค์มาประยุกต์ใช้กับทั้งธนาคาร โรงพยาบาล สายการบิน ไปจนถึงบริษัทผลิตยาต่างๆ เพราะหลายคนเริ่มตระหนักกันแล้วว่าความคิดสร้างสรรค์ช่วยให้ปัญหาต่างๆ ถูกแก้ไขได้ด้วยแนวทางใหม่ๆ ที่ไม่ซ้ำซาก
ความคิดสร้างสรรค์เกี่ยวข้องกับชีวิตของคนทุกคน และต่อไปนี้คือ 5 กลยุทธ์เจ๋งๆ และตัวอย่างคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ที่น่าสนใจ เพื่อเป็นแนวทางสำหรับการฝึกฝนตัวพวกเราเองให้เป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น
1. กล้าที่จะสร้างสรรค์
มีคนจำนวนมากที่กล้าใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการทำงาน แต่คนที่มีความคิดสร้างสรรค์แทบทุกคนต่างมีข้อด้อยด้วยกันทั้งนั้น ซึ่งการจัดการกับความรู้สึกของตัวเองต่อข้อด้อยต่างๆ ที่ถือว่ามีความสำคัญมากต่อการคิดอย่างสร้างสรรค์
ยกตัวอย่างเช่น ‘ชัก โคลส’ ศิลปินที่เป็นอัมพาตตั้งแต่คอลงไป เขาใช้ข้อด้อยดังกล่าวในการออกแบบวิธีสร้างผลงานแนวใหม่จนได้งานศิลปะที่มีความน่าสนใจมากขึ้น เช่นเดียวกับ ‘แจงโก ไรน์ฮาร์ดท์’ นักกีตาร์ที่สามารถคิดค้นการเล่นกีตาร์แจ๊สแนวใหม่ได้แม้นิ้วมือหลายนิ้วของเขาจะใช้การไม่ได้หลังเกิดอุบัติเหตุ หรือแม้แต่นักเขียนระดับตำนานอย่าง ‘เออร์เนสต์ เฮมมิงเวย์’ ที่พัฒนาสไตล์การเขียนอันเป็นเอกลักษณ์ได้จากโรคความบกพร่องในการอ่านของเขา
จะเห็นว่าแทบทุกคนต่างต้องประสบกับข้อเสียเปรียบบางอย่างในชีวิตด้วยกันทั้งนั้น แต่ความคิดสร้างสรรค์นี่แหละที่จะช่วยให้เรากล้าลุกขึ้นมาเปลี่ยนข้อเสียเปรียบเหล่านั้นให้กลายเป็นข้อได้เปรียบในที่สุด
2. ก้าวให้ทันโลก
ความเปลี่ยนแปลงมีประโยชน์มหาศาลต่อสังคมและวัฒนธรรม เราจึงต้องรู้จักเปลี่ยนแปลงและบูรณาการตลอดชีวิต ใครก็ตามที่ย่ำอยู่กับที่ย่อมจมดิ่งหายไปตามกาลเวลา จงอัพเดทตัวเองให้ทันโลกอยู่เสมอเพราะทุกๆ อย่างถูกทำให้ทันสมัยขึ้นตลอดเวลา
‘พอล ซามูเอลสัน’ เป็นนักเศรษฐศาสตร์ชาวอเมริกันที่ให้คำปรึกษาต่อสภาคองเกรสจนเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้รัฐบาลสหรัฐฯ สามารถป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจในปี 2008 ตกต่ำไปมากกว่าเดิมได้ เขาเป็นนักเรียนรู้ตลอดชีวิต แต่หนังสือที่เขาอ่านไม่ได้มีแต่หนังสือเศรษฐศาสตร์เท่านั้น เขาอ่านตั้งแต่วารสารการแพทย์ไปจนถึงหนังสือฟิสิกส์ โดยนำเอาแนวคิดที่หลากหลายเหล่านั้นมาประยุกต์ใช้กับเศรษฐศาสตร์
การแสดงให้เห็นประโยชน์ของความคิดสร้างสรรค์ในงานด้านเศรษฐศาสตร์ของซามูเอลสันถือเป็นปรากฏการณ์สำคัญทีเดียว เพราะก่อนหน้านั้น ไม่เคยมีใครคิดว่าเศรษฐศาสตร์จะเป็นศาสตร์ที่มีความคิดสร้างสรรค์ได้มาก่อนเลย
3. สมดุลชีวิตกับการงาน
คนที่มีความคิดสร้างสรรค์จะเลือกไลฟ์สไตล์ที่ตัวเองชื่นชอบและหาวิธีเพื่อให้ใช้ชีวิตแบบนั้นให้ได้ นักวารสารศาสตร์และนักเขียนชาวอเมริกันชื่อดังอย่าง ‘ฮันเตอร์ เอส. ธอมสัน’ อยากใช้ชีวิตแบบนักเขียนมาโดยตลอด แต่เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายนั้นได้ เขาเลือกที่จะประกอบอาชีพนักข่าวเพื่อหารายได้เลี้ยงตัวเอง ขณะเดียวกันก็แบ่งเวลาเขียนหนังสือที่เขาอยากเขียนไปพร้อมๆ กันด้วย
ธอมสันเคยกล่าวไว้ว่าเราควรเลือกเส้นทางอาชีพที่เปิดโอกาสให้เราได้ใช้ความสามารถของตัวเองอย่างเต็มที่ โดยในกรณีของเขา แม้งานที่ได้รับมอบหมายในฐานะนักข่าวหลายครั้งอาจจะไม่ใช่งานในอุดมคติที่เขาอยากเขียน แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้เขาได้ ‘เขียน’ เพราะการเขียนคือสิ่งสำคัญในชีวิตเขา
4. รับฟังคำติชม
คนที่มีความคิดสร้างสรรค์ยอมรับฟังคำวิพากษ์วิจารณ์ ตลอดจนรู้จักประเมินและปรับปรุงตัวเองเสมอ ยกตัวอย่างเช่น ‘รอย ลิกเทนสไตน์’ ที่เริ่มเปลี่ยนแปลงแนวทางการวาดรูปของตัวเองหลังจากที่ถูกลูกๆ ติเตียนงานศิลปะนามธรรม แม้จะเสียความรู้สึก แต่ลิกเทนสไตน์พิจารณาคำติเตียนเหล่านั้นและพัฒนางานตัวเองไปสู่การวาดรูปสไตล์หนังสือการ์ตูนมากขึ้น
ในที่สุด เขาได้กลายเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ของขบวนการ ‘ป๊อปอาร์ต’ กลุ่มศิลปินที่เชื่อว่าศิลปะจะต้องเกี่ยวข้องกับชีวิตคนธรรมดาๆ เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน และสร้างความตื่นเต้นให้แก่ผู้พบเห็นได้ในทันที
5. ดัดแปลงไอเดีย
บ่อยครั้งที่คนที่มีความคิดสร้างสรรค์นำผลงานที่ทำให้พวกเขาประทับใจหรือได้รับแรงบันดาลใจมาดัดแปลงและต่อยอดจนได้เป็นผลงานใหม่ๆ ออกมา ตัวอย่างที่สำคัญคือ ‘ปีเตอร์ เบนชลีย์’ ผู้เขียนนิยายชื่อดังเรื่อง ‘Jaws’ ที่เปิดเผยว่าเขาได้รับแรงบันดาลใจมาจากนิยายอีกเรื่องที่ชื่อ ‘Moby Dick’ โดยเขาแค่เปลี่ยนตัวละครวาฬขาวเป็นฉลามขาวและเพิ่มเติมเรื่องราวให้ดูทันสมัยมากขึ้นเท่านั้น
ดังนั้น หากต้องการเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ เราต้องไม่อายที่จะสร้างผลงานใหม่ๆ ด้วยแรงบันดาลใจจากผลงานที่เราเคารพและชื่นชม พึงระลึกไว้ว่าเสมอคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ไม่ใช่นักมายากลที่จะเสกไอเดียต่างๆ มาจากที่ไหนก็ได้ พวกเขาต่างมีกระบวนการและขั้นตอนของตัวเองทั้งนั้น
หลายคนอาจคิดว่าตัวเองไม่มีพรสวรรค์ ขาดความหลงไหล ไร้ความทะเยอทะยาน และรู้สึกว่าตัวเองเด็กเกินหรือแก่เกินที่จะรับผิดชอบหลายๆ อย่างในเวลาเดียวกันได้ แต่กลยุทธ์และตัวอย่างที่ถูกยกมาทั้งหมดข้างต้นคงยืนยันได้เป็นอย่างดีแล้วว่าการคิดอย่างสร้างสรรค์ช่วยให้เราก้าวข้ามทุกอุปสรรคได้อย่างแน่นอน
แหล่งข้อมูล: http://time.com/4251292/creative-thinking/
แหล่งภาพ : https://fabioevangelistadasilva.wordpress.com/2015/09/21/why-creative-geniuses-are-often-neurotic/