“Nice to read me! Ho! Ho! Ho!” เสียงนี้เป็นเสียงจากเหล่าหนังสือนิทานภาพทั้ง 25 เล่ม ที่ TK Park คัดสรรมาให้กับเด็ก ๆ ที่กำลังจะเติบโตเข้าสู่ปี 2025 ไปด้วยกัน
เพราะพี่ ๆ ที่ TK Park คิดว่าแค่อวยพรอย่างเดียวอาจไม่พอ เด็ก ๆ ควรได้รับสารที่ดีจากหนังสือนิทานภาพเหล่านี้ด้วย เพื่อตั้งต้นให้คำอวยพรกลายเป็นจริงได้
มาดูกันว่าคำอวยพรและเหล่าหนังสือนิทานภาพที่พี่ ๆ ตั้งใจเตรียมไว้ให้มีอะไรบ้าง
คำอวยพรข้อที่ 1 ขอให้รักและหวงแหนร่างกายตัวเองเสมอ
1) รู้คุณค่าของตัวเอง↗
รู้สึกไม่ดี รู้สึกเจ็บปวด ไม่แน่ใจว่าตอนนี้รู้สึกสบายใจหรือปลอดภัยหรือเปล่า ขอแค่รู้สึกขึ้นมา ก็ควรที่จะฟังหัวใจของตนเองและบอกผู้ใหญ่ที่ไว้ใจได้ เด็ก ๆ ควรได้รู้จักว่าการละเมิดคืออะไร เพื่อที่จะส่งเสียงบอกได้ รู้คุณค่าของตนเอง จะพาเด็ก ๆ และคุณพ่อคุณแม่ไปรู้จักนิยามและตัวอย่าง รวมไปถึงวิธีการป้องกันตัวและรับมือจากเหตุการณ์เหล่านี้
2) ส่วนนี้หนูหวงที่สุด↗
สิ่งที่สำคัญของเด็ก ๆ มีอะไรบ้างนะ นอกจากคุณแม่ คุณพ่อ ของเล่น รองเท้าคู่โปรดที่ใส่สบาย เพื่อนตุ๊กตาที่เข้านอนด้วยกันทุกคืน แน่นอนว่าหนึ่งในสิ่งสำคัญก็คือร่างกายของเด็ก ๆ นั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นมือ เท้า แก้ม และร่างกายส่วนอื่น ๆ ที่สำคัญมากเป็นพิเศษ ไม่ใช่ส่วนที่จะให้ใครมาจับได้
3) ปิงปิงไม่ยอม↗
“หอมแก้ม จุ๊บปาก ไม่เอา ใครทำกับเรา บอกแม่ทันที ร่างกายนั้นเป็นของหนู แม่ย้ำให้รู้ สิทธิ์หนูพึงมี” นิทานคำกลอนที่ยืนยันกับเด็ก ๆ ว่า เพราะเราต่างเป็นเจ้าของร่างกายของตนเอง เราจึงมีสิทธิเต็มที่ในการรู้สึก และพูดออกไปหากมีใครมาแตะต้องร่างกายของเรา
4) Lift-The-Flap Questions and Answers about Growing Up↗
ร่างกายของเราเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่มีอะไรชวนสงสัยมากมาย เรามีสะดือไว้ทำไม ทำไมเราต้องเข้านอนด้วย พอโตแล้วทำไมเสียงถึงเปลี่ยนไปกันนะ หนังสือเล่มนี้มีคำตอบให้กับข้อสงสัยเหล่านี้ การเติบโตอาจดูน่าตกใจและมีอะไรต้องปรับตัวมากมาย แต่มาเฝ้ามองการเติบโตของตนเองอย่างตื่นเต้นและตั้งใจกันเถอะ
คำอวยพรข้อที่ 2 ขอให้เติบโตอย่างแข็งแรงและปลอดภัย
1) หูไวตาไว↗
“หูไวตาไว พวกเราไม่กลัว ต้องระวังตัว บอกไปไม่เอา” คำกลอนติดหูจากหูไวตาไว นิทานที่ชวนให้เด็ก ๆ ระวังภัยจากบุหรี่ไฟฟ้า ที่ภาพลักษณ์อาจดูคล้ายของเล่นที่น่ารักน่าสนใจ แต่กลับมากไปด้วยสารเคมีที่อันตรายต่อสุขภาพ การบอกเล่าด้วยคำกลอนตรงไปตรงมา จะเป็นการเน้นย้ำกับเด็ก ๆ ว่าเป็นเรื่องสำคัญ ที่จะต้องหูไวตาไว ต้องปฏิเสธทอยพอดให้เด็ดขาดเมื่อพบเจอ และรีบบอกผู้ใหญ่ที่ไว้ใจได้ทันที
2) ขบวนการปราบทอยพอด↗
ขบวนการปราบทอยพอด ชี้ให้เห็นความแตกต่างระหว่างรูปลักษณ์ของของเล่นทั่วไป กับทอยพอดหรือบุหรี่ไฟฟ้า รวมทั้งยังชวนให้เด็ก ๆ ฝึกสังเกตและสอดส่องสังคมรอบตัวในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในสถานศึกษาอย่างโรงเรียนที่คล้ายบ้านหลังที่สอง ว่ามีทอยพอดปะปนมาบ้างหรือเปล่า
3) เด็กชายกับสหายผู้ปกป้อง↗
เด็กชายกับสหายผู้ปกป้อง เป็นอีกเรื่องราวที่พูดถึงบุหรี่ไฟฟ้า ยิ่งไปกว่านั้นคือโรงงานอุตสาหกรรม ทั้งหมดมีผลต่อการหายใจของเรา นอกจากจะทำให้เด็ก ๆ เห็นพิษภัยของบุหรี่ไฟฟ้า ยังเป็นดังสารถึงผู้ใหญ่ หรือใครก็ตามที่ข้องเกี่ยวว่า เราอยากจะสร้างโลกแบบไหน อากาศแบบไหน ไว้ให้เด็ก ๆ ที่กำลังเติบโต
4) ปิงปิงล้างจมูก↗
ทั้งน้ำเกลือในกระบอกฉีดยา ทั้งวิธีใช้ที่ต้องสอดในรูจมูก เป็นสิ่งที่ดูน่ากลัวหากมองจากสายตาของเด็ก ๆ ยอมทนฟึด ๆ ฟัดๆ อาจจะดีกว่าด้วยซ้ำไป ในเล่มนี้ เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้ไปพร้อมกับปิงปิงว่า ถึงจะดูน่ากลัว แต่จริง ๆ แล้วการล้างจมูกไม่เจ็บเลย เมื่อทำแล้ว จะหายใจได้ปลอดโปร่งขึ้นมากอีกด้วย
5) ป๋องแป๋งเอาตัวรอดจากฝูงชน↗
ในสถานการณ์ที่มีคนเยอะ ทัศนวิสัยของเด็ก ๆ จะยิ่งดูน่าตื่นตระหนกไปโดยปริยาย นิทานเล่มนี้จำลองภาพสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้จริงในชีวิตของเด็ก ท่ายืนขั้นพื้นฐานที่ควรทำ การตะโกนเรียกผู้ใหญ่เพื่อระบุตำแหน่ง
คำอวยพรข้อที่ 3 ขอให้หัวใจเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง
1) ตอนที่ผมกินราเม็ง↗
ตอนที่เรากำลังใช้ชีวิต กินอาหาร วิ่งเล่น ในบ้านหลังถัด ๆ ไป ในเมืองอีกเมืองหนึ่ง ในอีกฟากโลกหนึ่ง มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เล่มนี้ชวนเด็ก ๆ ให้มองโลกในอีกฟาก และมองชีวิตของผู้คนที่ไม่เคยรู้จักและอาจแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
2) เมื่อสงครามมาเยือน↗
“สงครามตามหนูมา และในเวลาฝัน สงครามเกาะกุมอยู่ในหัวใจของหนู” สงคราม การอพยพ การพลัดถิ่น เป็นเรื่องที่แม้จะดูหนาหนักสำหรับเด็กน้อย หากแต่เพราะสิ่งเหล่านี้ยังคงดำเนินอยู่บนโลกใบเดียวกันกับที่เด็ก ๆ อาศัยอยู่ ยังคงมีผู้คนที่ชอกช้ำ การรับรู้และไม่ปิดหูต่อเรื่องราวของเพื่อนร่วมโลกจึงเป็นสิ่งสำคัญ
3) Under the Same Sky↗
Under the Same Sky เป็นนิทานภาพที่บอกเล่าผ่านตัวละครสัตว์ป่าจากหลายมุมโลก แม้จะแตกต่างกัน เป็นเอกลักษณ์ และไม่มีใครเหมือนใคร แต่ก็ต่างอาศัยอยู่ใต้ท้องฟ้าผืนเดียวกัน ต่างรับรักและแบ่งปันรักให้กับคนสำคัญ
4) Wisp: A Story of Hope↗
“สิ่งนั้นได้กระซิบออกมาว่า… ในสักวัน” หนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องราวของเด็กชายผู้ลี้ภัย ที่ทั้งชีวิตยังไม่เคยมีความทรงจำของโลกที่สงบสุข นิทานเรื่องนี้พูดถึงทั้งความทรงจำ ความหวัง และคำสัญญา ว่าสักวันโลกใบนี้จะเป็นที่ที่เด็ก ๆ ทุกคนอยู่ได้อย่างสงบสุข
คำอวยพรข้อที่ 4 ขอให้ได้ใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองชอบ
1) Julián Is a Mermaid↗ (เงือกน้อยจูเลียน↗)
มีข้อจำกัดหรือเปล่าหนอ ว่าเด็กคนนี้จะต้องชอบสีฟ้า เด็กคนนั้นจะต้องชอบสีชมพู หรือเด็กคนนี้จะชอบเงือกได้และชอบเงือกไม่ได้—แน่นอนว่าไม่มี นิทานเล่มนี้บอกเล่าเรื่องราวของจูเลียน เด็กน้อยที่ชื่นชอบเงือก และเหล่าผู้ใหญ่รอบตัวที่คอยโอบอุ้มและสนับสนุนในความชอบนั้น ไม่ใช่เพียงความชอบ แต่คือการสนับสนุนความเป็นตัวเองของจูเลียน นิทานเล่มนี้จึงไม่ใช่เพียงพื้นที่ปลอดภัยให้กับเด็ก ๆ แต่ยังเป็นนิทานที่ชวนผู้ใหญ่ให้ร่วมสร้างสังคมที่โอบรับความหลากหลายเพื่อเด็ก ๆ ด้วยเช่นกัน
2) เด็กชายผมดอกไม้↗
นืทานเล่มนี้บอกเล่าสถานการณ์ที่เด็กคนนึงอาจประสบเรื่องยากลำบาก อาจไม่แจ่มใสเหมือนเดิม ไม่ร่าเริงเหมือนเดิม แต่การที่มีคนเคียงข้างจะทำให้เขาผ่านมันไปได้ เด็กชายผมดอกไม้เป็นนิทานที่แสดงให้เด็ก ๆ ได้เห็นถึงทั้งแง่มุมที่ว่า ไม่เป็นไรนะ หากจะรู้สึกเศร้าและหมองหม่น รวมถึงแสดงให้เห็นความสำคัญของการอยู่เคียงข้างและเป็นพลังให้กับคนสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนของเด็ก ๆ หรือคนอื่นรอบตัว
3) มีคนหลากหลายในโลกใบนี้↗
“มีคนสี่ร้อยคนออกมาเดินขบวน คนหนึ่งต้องการที่จะได้รับการผ่าตัด คนหนึ่งอยากได้กล้องดูดาว…ทุกคนต่างอย่างให้โลกนี้ดีขึ้นกว่าเดิม” หนังสือนิทานที่มีตัวละครมากกว่าหนึ่งร้อยคน แต่ละคนต่างเผชิญสิ่งต่าง ๆ ต่างกันไป รู้สึกหลายอย่างต่างกันไป ทั้งอารมณ์ สุข เศร้า คิดถึง ในสถานที่และสถานการณ์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสนามโรงเรียน สมาคมคนชอบแต่งชุดสีชมพู คุก หรืองานศพ รวมถึงชวนให้จดจ่อกับการเฝ้าสังเกตความเป็นไปของตัวละครว่าใครเป็นใคร แม้ว่าเรื่องจะไม่ได้พูดตรง ๆ แต่การสังเกตก็เป็นเรื่องถนัดของเด็ก ๆ เมื่ออ่านเล่มนี้แล้ว คุณพ่อคุณแม่สามารถชวนเด็ก ๆ พูดคุยในระหว่างอ่านได้ด้วยในหลายประเด็นได้ ว่าเด็ก ๆ มีความคิดเห็นเกี่ยวกับแต่ละคนว่าอย่างไร
4) คุณแม่ของฉันเป็นโจรสลัด↗
คุณแม่ของฉันเป็นโจรสลัด เป็นนิทานที่ชวนเด็ก ๆ ให้ตั้งใจเฝ้ามองครอบครัวของตนเองมากขึ้น อะไรในครอบครัวของเราที่เป็นเอกลักษณ์ อะไรในครอบครัวของเราที่แสนวิเศษ รวมถึงการเป็นครอบครัว อาจจะไม่จำเป็นต้องประกอบด้วย คุณพ่อ คุณแม่ และลูกเสมอไป เป็นคุณแม่ คุณแม่ และลูกก็อาจจะได้เหมือนกัน
คำอวยพรข้อที่ 5 ขอให้มีความศรัทธาและเชื่อมั่นในตัวเอง
1) นกประหลาดบนไหล่ของฉัน↗
ถ้าเด็ก ๆ จะต้องย้ายโรงเรียน เพื่อนสนิทในวัยอนุบาลจะไม่ได้อยู่โรงเรียนเดียวกันต่อแล้ว หนึ่งในความกังวลที่เด็ก ๆ ต้องพบเจอก็คือการเข้าไปทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่นิทานเล่มนี้บอกเล่าความกังวลนั้นออกมาในรูปแบบของเจ้านกที่คอยกระซิบกระซาบความกังวลอยู่ข้างหู แบบที่เด็ก ๆ จะรู้สึกมีอารมณ์ร่วมไปด้วยได้ไม่ยาก มาเอาใจช่วยเด็กน้อยในเรื่อง และมาฝึกความกล้าหาญไปด้วยกันกับเล่มนี้
2) หมวกของมาสุเกะ↗
บางครั้ง สิ่งที่จำเป็นในการทำเรื่องยาก ๆ ให้สำเร็จ นอกจากความพยายาม ก็คือความเชื่อมั่นและกำลังใจ ในหลายครั้งทั้งสองสิ่งก็เป็นสิ่งที่สามารถส่งต่อไปให้คนอื่นได้ด้วยเช่นกัน หมวกของมาสุเกะคือเรื่องราวที่แทนภาพของกำลังใจด้วยหมวกใบน้อย ซึ่งเด็ก ๆ สามารถเป็นได้ทั้งมาสุเกะที่ได้รับหมวก และมาสุเกะผู้ส่งต่อหมวกไปให้เด็กคนอื่น ๆ ได้
3) What We'll Build: Plans for Our Together Future↗
“พวกเราจะสร้างหอคอยมองฟ้า และมองดูโลกที่ผ่านมาผ่านไป” เรื่องราวนุ่มนวลและภาพวาดชวนฝันที่เป็นดั่งจดหมายรักจากพ่อถึงลูกน้อย ว่าด้วยการอยู่ร่วมกันบนโลกใบใหญ่นี้ เราจะทำอะไรกันบ้าง เราจะเล่นสนุกอะไรกันบ้าง หรือยามเราเหนื่อยล้า เราจะทำอะไร ระหว่างที่อ่านหรือเมื่ออ่านจบแล้ว คุณพ่อคุณแม่สามารถชวนเด็ก ๆ มานึกคิดถึงสิ่งที่อยากจะทำ และนึกคิดถึงอนาคตของครอบครัวไปด้วยกันได้
4) แด่เด็กน้อยผู้ผจญภัยโลกกว้าง↗
“ทุกสิ่งล้วนแปลกใหม่ในทีแรก ใจหนูอาจจะรู้สึกกลัวยามเห็นทิวทัศน์ที่ไม่คุ้นตา ใครใครก็เป็นเหมือนกันทั้งนั้น” นิทานที่เป็นดั่งคำอวยพรอ่อนโยนจากแม่ถึงลูก ในยามที่ลูกต้องเติบโตและออกเดินทาง สำหรับคุณแม่ที่เป็นห่วงลูกสุดหัวใจแต่ไม่รู้จะสื่อออกไปอย่างไร บางทีเล่มนี้อาจแทนความรักและความเป็นห่วงนั้นได้อย่างดี
คำอวยพรข้อที่ 6 ขอให้ก้าวผ่านไปได้ในทุกการเปลี่ยนแปลง
1) ใครปลอมตัวเป็นยายฉัน↗
นิทานเล่มนี้พาเด็ก ๆ ไปทำความเข้าใจคุณปู่คุณย่าที่บ้าน สภาวะร่างกายที่ต่างไปจากเดิมจนทำให้นิสัยและการพูดจาดูเปลี่ยนไปจากคุณปู่คุณย่าที่เคยรู้จัก แต่นิทานเรื่องนี้ก็ยังทิ้งท้ายว่าคุณปู่คุณย่ายังคงรักเด็ก ๆ เหมือนเดิม
2) ต่อจากนี้จะเป็นอย่างไรนะ↗
เรื่องราวหลังความตายจะเป็นอย่างไร มีนรก มีสวรรค์ หรืออาจจะไม่มีอะไรอยู่เลย ต่อจากนี้จะเป็นอย่างไรนะ ชักชวนเด็ก ๆ ให้คิดและจินตนาการถึงความเป็นไปได้นับร้อยในโลกหลังความตายอย่างสนุกสนาน
3) Duck, Death and the Tulip↗ (เป็ด ความตาย และดอกทิวลิป↗)
ด้วยจังหวะการเล่าที่เรียบง่ายและอ่อนโยนราวกับการโอบกอด คุณความตายมารับคุณเป็ดไปอย่างเนิบช้าและใจเย็น นิทานเรื่องนี้เป็นอีกเล่มที่บรรยายภาพและเล่ากล่าวถึงความตายว่าเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นในสักวัน และมันไม่น่ากลัวขนาดนั้นหรอกนะ
4) ความตายของเจ้าหนอนผีเสื้อ↗
เมื่อมีคนสำคัญจากไป คำถามที่ตามมาก็คือว่า คนที่ยังอยู่จะทำอย่างไร นิทานเล่มนี้ปลอบโยนว่าการเศร้าเสียใจนั้นไม่มีรูปแบบที่ตายตัว หลังการจากไปของคนที่รัก บางคนอาจเลือกที่จะร้องไห้ บางคนเฝ้าคิดถึง และบางคนอาจโกรธเคืองการด่วนจากไป แต่ท้ายที่สุดแล้ว กาลเวลาจะเป็นสิ่งที่คอยช่วยเหลือหัวใจของเด็ก ๆ และทุกคนเอง อาจจะใช้เวลาสักหน่อย แต่นิทานเรื่องนี้ก็ยืนยันอย่างใจดีและหนักแน่นว่าจะเจ็บปวดน้อยลงแน่ ๆ ในสักวัน
สุดท้ายนี้ TK Park ขอให้ปี 2025 เป็นปีที่แสนดีสำหรับทุกคน สวัสดีเล่มใหม่ และ สวัสดีปีใหม่นะ :)