ในวงการการศึกษาและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ 3Rs คือ ทักษะการรู้หนังสือ 3 ประการ ที่ประกอบด้วย อ่านออก (Reading) เขียนได้ (Writing) และคำนวณเลขเป็น (Arithmetic) ทั้งสามองค์ประกอบนี้ถือเป็นทักษะพื้นฐานความรู้โดยทั่วไป หรือ Hard Skills ที่สถาบันการศึกษาเริ่มปลูกฝังให้กับเด็กตั้งแต่อายุยังน้อย
เมื่อมีพื้นฐาน ย่อมแปลว่าต้องการต่อยอด สมาคมการศึกษาแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (National Education Association หรือ NEA) ก่อตั้งภาคีพัฒนาทักษะสำหรับศตวรรษที่ 21 (Partnership for 21st Century Skills หรือ P21) ขึ้นเมื่อปี 2004 โดยภาคีนี้ได้สรุปแนวทักษะที่จำเป็นสำหรับเด็กยุคปัจจุบันว่ามี 4 ทักษะ หรือที่เรียกว่าทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม 4 ด้าน (4Cs) ซึ่งเป็นชุดทักษะที่เป็นเหมือนสะพานเชื่อมเด็ก ๆ กับโลกชีวิตจริงในอนาคต ช่วยให้เด็ก ๆ สามารถต่อยอดการเรียนรู้ได้ด้วยตนเองไปตลอดชีวิต
TK Park จัดกิจกรรม TK Summer Learning↗ ในบริบทนอกห้องเรียน เพื่อพัฒนาทักษะเหล่านี้ให้กับเด็กช่วงชั้นประถมศึกษาตอนต้นเป็นประจำทุกปี บทความนี้จึงรวบรวมประเด็นสำคัญที่จะช่วยให้ผู้ปกครองทำความรู้จักกับกระบวนการสร้างทักษะ 4Cs มากยิ่งขึ้น
ทักษะ 4Cs ประกอบด้วยอะไรบ้าง?
1. การคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม (Creativity and Innovation) หมายถึง การที่เด็ก ๆ มีความคิดสร้างสรรค์ คิดนอกกรอบ กล้าที่จะลองผิดลองถูก และสามารถต่อยอดความคิดไปสู่สิ่งใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์
2. การคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหา (Critical Thinking and Problem Solving) หมายถึง การที่เด็ก ๆ มีทักษะการคิดวิเคราะห์ แยกแยะข้อมูล คิดอย่างมีวิจารณญาณ และสามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. การสื่อสาร (Communication) เหมายถึง การที่เด็ก ๆ มีทักษะการสื่อสารที่ดีทั้งการพูด การฟัง การอ่าน และการเขียน สามารถถ่ายทอดความคิดและความรู้สึกของตัวเองได้อย่างชัดเจน
4. การทำงานร่วมกับผู้อื่น (Collaboration) หมายถึง การที่เด็ก ๆ มีทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น รู้จักการแบ่งปัน ช่วยเหลือ แบ่งหน้าที่ และทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุเป้าหมาย
เมื่อทักษะ 4Cs รวมกับทักษะ 3Rs
เมื่อพิจารณาทักษะพื้นฐาน 3Rs แต่ละข้อ การอ่านออก ช่วยให้เด็ก ๆ เข้าถึงข้อมูลและความรู้ใหม่ ๆ การเขียนได้ ช่วยให้เด็ก ๆ ถ่ายทอดความคิดและความรู้สึกของตัวเอง และการคำนวณเลขเป็น ช่วยให้เด็ก ๆ คิดวิเคราะห์ แก้ปัญหา และตัดสินใจอย่างรอบคอบ มีที่มาที่ไป และสรุปวิธีแก้ที่ตรงกับประเด็นคำถามได้
ดังนั้น Jennifer Buckingham นักการศึกษาจากออสเตรเลีย จึงเสนอไว้เมื่อปี 2017 ว่าทักษะ 4Cs ไม่มีความหมายอะไรหากปราศจากทักษะพื้นฐาน 3Rs เพราะหากเด็กอ่านหนังสือไม่ออก ไม่มีความรู้พื้นฐานมาก่อน เด็กก็ย่อมไม่มีต้นทุนที่นำมาคิดพลิกแพลงอย่างสร้างสรรค์หรือเชิงวิพากษ์ได้ และเช่นเดียวกัน เด็กที่เขียนหนังสือไม่ได้ก็จะสื่อสารสิ่งที่พวกเขารู้และคิดอย่างมีประสิทธิภาพไม่ได้ ดังนั้น เธอจึงสรุปว่าผู้ปกครองไม่ควรชะล่าใจว่าแค่มีคอมพิวเตอร์หรือแท็บเล็ตไว้ท่องอินเตอร์เน็ต บรรยากาศผ่อนคลาย และผู้ใหญ่ที่เอาใจใส่อยู่ใกล้ ๆ เพียงเท่านั้น ก็จะทำให้เด็ก ๆ สามารถเรียนรู้เรื่องราวที่ซับซ้อนและสร้างนวัตกรรมที่สร้างสรรค์ด้วยตนเองได้ เพราะการสอนทักษะพื้นฐาน 3Rs ให้กับเด็กยังคงเป็นสิ่งจำเป็นเสมอ และต้องสอนโดยครูที่เชี่ยวชาญ แล้วจึงขยับขยายไปสู่การสร้างทักษะ 4Cs ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเป็นส่วนเติมเต็มประสบการณ์การเรียนรู้
ในยุคปัจจุบัน นักการศึกษาหลายคนพัฒนากระบวนการสร้างทักษะ 4Cs โดยการขยายเป็น 8Cs โดยเพิ่มทักษะด้านความเข้าใจข้ามวัฒนธรรม (Cross-cultural Understanding) ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ (Computing) ทักษะอาชีพและการรู้จักตนเอง (Career & Learning Self-reliance) และทักษะการรับมือกับความเปลี่ยนแปลง (Change) หรือบางแห่งมีการพูดถึง 2Ls ได้แก่ ทักษะการเรียนรู้ (Learning Skills) และภาวะผู้นำ (Leadership) เพิ่มเติมด้วย แต่อย่างไรก็ดี การกำหนดทักษะด้านใหม่ ๆ เพิ่มเติม โดยเฉพาะ 2Ls ยังไม่มีการศึกษาวิจัยในวงการวิชาการในวงกว้างมากนักในยุคปัจจุบัน
ใครจะสอนทักษะ 4Cs ให้เด็ก?
ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการสอนทักษะ 4Cs ให้เด็ก ๆ ได้ ดังนี้
ครูที่โรงเรียน ครูสามารถออกแบบการเรียนการสอนที่เน้นการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา การทำงานร่วมกัน และความคิดสร้างสรรค์ เสริมจากบทเรียนที่เป็นความรู้พื้นฐานที่เด็กต้องท่องจำและฝึกฝน
พ่อ แม่ ผู้ปกครอง สามารถส่งเสริมให้เด็ก ๆ คิดนอกกรอบ ตั้งคำถาม หาคำตอบด้วยตัวเอง ทำงานร่วมกับผู้อื่น เป็นพื้นที่ปลอดภัยให้เด็กได้ถ่ายทอดความรู้สึกต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันได้อย่างอิสระ
สมาชิกในครอบครัว ปู่ย่าตายาย ลุงป้าน้าอา สามารถช่วยสอนทักษะชีวิต ผ่านเรื่องเล่าประสบการณ์ส่วนตัว และการดำรงความสัมพันธ์ในครอบครัว การงาน และคนรอบข้าง
นักการศึกษา ติวเตอร์ ผู้ฝึกสอนสามารถจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมทักษะ 4Cs ให้เด็ก ๆ มารวมตัวกันทำกิจกรรมที่ช่วยให้เด็กรู้สึกถึงความท้าทาย และคุณค่าของการมีส่วนร่วม
ชุมชน ห้องสมุด พิพิธภัณฑ์ สวนสาธารณะ แหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ล้วนมีบทบาทสำคัญในการเปิดมิติการมองเห็น การรับรู้ และการอยู่ร่วมกันในพื้นที่สาธารณะ
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดของการสร้างโอกาสให้เด็กพัฒนาทักษะ 4Cs คือ ผู้ใหญ่ควรให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง ลองผิดลองถูก ค้นหาแนวทางของตัวเอง ร่วมกิจกรรมกลุ่มที่ต้องทำงานร่วมกับผู้อื่น เพื่อประสบการณ์อันล้ำค่าที่บอกเล่าผ่านบทเรียนไม่ได้ เพื่อให้เด็ก ๆ สามารถสังเคราะห์ความรู้ด้วยตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นประโยชน์ต่อตนเองในอนาคต
อ้างอิง: [1], [2], [3], [4], [5]